Wednesday

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ว่าด้วยการย้อนมองส่องตน 2

การโกหกเป็นกิเลส บางคนพูดโกหกจนติดเป็นนิสัย
ผู้บำเพ็ญธรรมต้องละกิเลส ละตัณหา และก่อนที่เราจะสอนหรือแนะนำผู้อื่น
ย้อนดูตัวเราว่าได้ปฏิบัติตามกฏระเบียบในสถานธรรมแล้วหรือยัง
1. รักษาความสงบไม่คุยเสียงดัง
วันนี้เราเป็นผู้นำเขา
เราได้ตั้งปณิธานทางเจ ใจสะอาด
ยังจะต้องรู้กฏระเบียบในสถานธรรมเพื่อที่จะนำพาเวไนยได้
ไม่ว่าอยู่ในสถานธรรมหรือนอกสถานธรรม
เราก็ต้องทำให้ได้

2. เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เราโค้งเท่าไหร่
แม้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มาประทับญาณ
มีแต่เพียงหน้าพระ มีแต่เพียงพระพุทธรูป เราก็อย่าละเลย
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างรับรู้อย่างชัดเจน
ภายนอกสถานธรรมเราก็ต้องให้ความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกชั้น
เพื่อทที่จะอ้อนวอนให้ท่านได้ร่วมช่วยงานธรรม ช่วยชักนำผู้มีบุญสัมพันธ์เข้าสู่สถานธรรม
และการที่ศิษย์อ่อนน้อมถ่อมตนได้ก็เป็นผลดีแก่ตัวเอง
ใครเห็นเขาก็จะยกย่อง ชื่นชม ให้ความเคารพ อยากอยู่ใกล้ อยากเรียนรู้กับเรา

3. แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าต้องเรียบร้อย
อยู่ในสถานธรรมควรแต่งกายอย่างไร
ให้สุภาพมีปก มีแขน
ออกไปข้างนอกหาญาติธรรมจำเป็นต้องใส่สีขาวดีที่สุด
เพราะเราเป็นตัวแทนของธรรมะ
คือความบริสุทธิ์ สะอาด
เขาจะได้รู้ว่านี่คือ ผู้บำเพ็ญ...

4. เคารพผู้อาวุโส
ให้ถือว่าผู้ที่เข้าใจธรรมก่อนเราคือ ผู้อาวุโส
ผู้น้อยต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนต่ออาวุโส
เช่นตื่นเช้ามาต้องทักทายกัน
ผู้น้อยจำเป็นต้องเป็นฝ่ายทักทายด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนก่อน
แต่บางครั้งผู้น้อยยังไม่เข้าใจ
อาวุโสก็ต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่างโดยมิต้องบอกกล่าวเป็นคำพูดก็ได้

5. ควรไหว้พระเช้า - เย็น
อยู่ในสถานธรรมต้องไหว้พระตรงเวลาและพร้อมหน้ากัน
แต่หากผู้ใดมีหน้าที่รับผิดชอบ
ก็ทำหน้าที่ของตนให้เสร็จเสียก่อน
หากว่างแล้วก็แบ่งเวลามาไหว้พระก็ได้
เพราะพระก็อยู่ในใจเรา
แต่ก็อยู่ภายใต้จิตสำนึกของแต่ละคนด้วยเช่นกัน
แต่หากเรารวมพลังกันไหว้พระเช้าเย็นได้ก็ยิ่งดี
เพราะความสามัคคีของเรานี้จะได้ส่งไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เบื้องบน ช่วยปัดเป่าเรื่องร้าย ๆ ให้กลายเป็นดีได้

6.หญิงชายแบ่งแยกให้ชัดเจน
ชายหญิงในสถานธรรม
เปรียบเสมือนพี่น้องร่วมมกันบำเพ็ญ
สิ่งใดไม่ถูกต้องก็ตักเตือนซึ่งกันและกัน
แต่มิใช่ว่าเข้าไปยุ่งวุ่นวายกันจนเกินขอบเขต
มิเช่นนั้น จะเป็นการสร้างบาปโดยมิรู้ตัว
สามีภรรยาก็ต้องช่วยกันส่งเสริมซึ่งกันและกัน
ร่วมกันบำเพ็ญ
ใครยังไม่เข้าใจก็ค่อย ๆ ชักจูงเขาด้วย
ตัวเราต้องปฏิบัติให้เขาดูเป็นแบบอย่าง

7. ช่วยรักษาสิ่งของให้กับสถานธรรม
มีคนถามพระอาจารย์ว่า
แล้วถ้าคนเสียหายล่ะ จะทำอย่างไร
เพราะสิ่งของเสียหายยังอาจซ่อมแซมได้
แต่ถ้าคนเสียหายล่ะจะทำอย่างไร ( ใช้ธรรมรักษา )
จะใช้ธรรมะข้อไหนรักษาก็ต้องแล้วแต่อาการของแต่ละคน
ปีเก่าผ่านไปปีใหม่เข้ามา เราอย่ามัวแต่รีรอ
มิเช่นนั้น เมื่อเจอทดสอบเราก็จะล้มอย่างลุกไม่ขึ้น
ถามใจตนเองดู

8. รักษาความสะอาดในสถานธรรม
เราต้องช่วยกันสอดส่องดูแลความเรียบร้อยในสถานธรรม
ที่ใดสึกหรอหรือเสียหายช่วยกันซ่อมแซม
เช็ด กวาด ถู
เพราะนี่คือวังของพระมารดา
ไม่ใช่บ้านของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นบ้านของเวไนย์ทุก ๆ คน
เพราะฉะนั้น ทุกคนจึงมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา
เข้าใจหรือไม่

9. ต้องไปมาลาไหว้
การท่องบทพุทธระเบียบต้องพูดอย่างชัดเจนถูกต้อง
การบำเพ็ญธรรมต้องตามหลักพงศาธรรม
ดำเนินไปตามนั้น
เราต้องมีปัญญา ต้องติดตามผู้มีคุณธรรม
การบำเพ็ญยุคนี้อย่าคิดเสวยสุขเพื่อตัวเอง
ใช้จ่ายอย่างประหยัดเพื่อถนอมบุญของตนเองและบิดามารดา
พระ มาร อยู่ปะปนกันจนแยกไม่ออก
บางครั้งเห็นมารเป็นพระ เห็นพระก็บอกว่าเป็นมาร
เพราะมารก็ไม่ได้มีเขี้ยว
และพระก็ไม่ได้มีแต่รอยยิ้มให้เราเห็นเท่านั้น

10.ก่อนออกไปไหนควรรายงานอาวุโส
เมื่อจะออกไปไหน
เราก็ต้องรายงานเวลาไป-กลับ
ให้อาวุโสผู้รับผิดชอบที่นั้นทราบ
เพราะผู้ออกมาอยู่ในสถานธรรม อาจารย์ชี้แนะก็เปรียบเหมือนบิดามารดาที่ต้องดูและแทนพ่อแม่ของเจ้า
หากศิษย์เป็นอะไรไปแล้ว ใครล่ะจะเป็นผู้รับผิดชอย
เพราะฉะนั้น เราต้องคิดถึงข้อนี้ให้ดี
อย่าทำอะไรตามอำเภอใจ
สิ่งสำคัญอาจารย์ชีแนะต้องเป็นตัวอย่างให้รุ่นหลังด้วย
ทำสิ่งใดไตรตรองให้ดี
อย่าให้ผู้น้อยต้องพูดลับหลัง
มิเช่นนั้น แม้มีโองการสวรรค์ก็จะสูญเสียคุณค่าไป

No comments:

Post a Comment