ศิษย์เอ๋ย “สุภาพชนคบกันจืดดั่งน้ำเปล่า” อย่าได้ติดพัน โดยเฉพาะภายนอก ไม่เช่นนั้น จะผูกติดยุ่งเหยิง บำเพ็ญธรรม รักษาธรรมะสัมพันธ์ ธรรมะผูกพัน มีสุขร่วมสุขมีทุกข์ร่วมต้าน เมื่อนั่งอยู่บนเรือลำเดียวกัน จะต้องรู้จักประคับประคอง
ศิษย์ เอ๋ย พึงประคองรักษาสัจธรรมไว้กลางใจอยู่เสมอ เช่นนี้ เจ้าจึงจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว จึงจะไม่ไร้จุดหมาย สัจธรรมคือทิศทางของเจ้านั่นเอง
“ปลาตายตัวเดียวเน่าทั้งข้อง” เคยได้ยินคำโบราณนี้หรือไม่ ? ในอาณาจักรธรรมก็เช่นเดียวกัน หากมีใครคนใดคนหนึ่งให้ร้ายทำลายธรรม ก็จะสะเทือนต่ออาณาจักรธรรมทั้งหมด ดังนั้น เจ้าจะต้องคอยระมัดระวังและสำรวมตน อย่าได้มีความโลภโมโทสัน ต้องคอยระวังกาย วาจา ใจของเจ้า ต้องปฏิรูปกาย ใจ ธรรมญาณ
ในการบำเพ็ญปฏิบัติธรรมนั้น “ไม่หวังมีบุญ แต่หวังไร้บาป” บำเพ็ญ ธรรมต้องจริงจังเท้าติดดิน อย่าได้เห่อเหิมทะเยอทะยาน พระอาจารย์มอบความรักให้แก่เจ้า และก็หวังว่าเจ้าจะมอบความรักนี้ให้แก่เวไนย รักและอาทรต่อเวไนยให้เหมือนกับที่เจ้ารักพ่อแม่ ญาติพี่น้อง อย่าได้มีใจแบ่งแยก จงมอบความรักความอาทรแห่งโพธิสัตว์ออกมา
ศิษย์ เอ๋ย พุทธะ มาร อยู่แค่ความคิดชั่ววูบ เจ้าส่งเสริมคน เจ้าก็คือพระพุทธะ เจ้าทดสอบคน เจ้าก็คือมาร น่ากลัวหรือไม่? หนึ่งความคิด สำเร็จอริยะ หนึ่งความคิดกลายเป็นมารได้ ดังนั้น จะต้องรู้ควบคุมความคิด อย่าได้คิดชั่ว
เจ้า ต่างก็ทำงานฟ้า ทำงานฟ้าใจจะต้องเหมือนฟ้า อย่าลำเอียงเห็นแก่ตัว หวังเจ้าจะเอาอย่างพระอาจารย์ เที่ยงธรรมปราศความเห็นแก่ตัว แม้พระอาจารย์จะไร้กายเนื้อแล้ว แต่ขวัญชีวาก็ยังคงอยู่กับเจ้าเสมอไป ยามที่เจ้ามีทุกข์ภัย แค่เพียงเรียกหาพระอาจารย์ พระอาจารย์ก็จะมาอยู่ข้างๆกายเจ้า
ลำพังพระอาจารย์เพียงผู้เดียว ต้องดูแลเจ้านับหมื่นพัน เจ้าต่างคนต่างจิตต่างใจ พระอาจารย์ต้องลำบากเพียงใดเพื่อดูแลเจ้าทั้งหลาย ศิษย์เอ๋ย ภาระของพระอาจารย์ เจ้าว่าหนักหรือเปล่า?
No comments:
Post a Comment