Saturday

หน้าที่

ภิกษุรูปหนึ่ง มีหน้าที่เคาะระฆังในวัด ด้วยหน้าที่ที่ทำมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายในหน้าที่ เพราะต้องคอยเคาะทุกวัน เช้าตรู่ต้องลุกก่อนเพื่อนเพื่อมาเคาะระฆัง ตกค่ำก็ต้องเคาะ เพราะเสียงระฆังคือมาตรฐานในการทำวัตรเช้าวัตรเย็น
จนอยู่มาวันหนึ่ง ท่านเจ้าอาวาสก็ได้ประกาศในที่ชุมนุมสงฆ์ว่าจะสับเปลี่ยนหน้าที่ ให้พระที่ทำหน้าที่เคาะระฆังเข้าไปรับผิดชอบงานในครัววัดแทน เพราะขาดคุณสมบัติในการเคาะระฆัง
ทำให้ภิกษุรูปนี้รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ถามเจ้าอาวาสว่า
“การเคาะระฆังก็ไม่ได้สำหลักสำคัญอะไร? ทำไมต้องมาว่ากระผมไม่มีคุณสมบัติ?”
ท่านเจ้าอาวาสจึงกล่าวว่า
“เจ้า เคาะระฆังแบบไร้ชีวิตชีวา มีกำลังแต่ไร้แรง แม้ระฆังจะดัง แต่ไม่กังวาน ไม่หนักหน่วง อาตมาฟังเสียงระฆังมาเป็นเวลาสิบกว่าปี มีหรือจะไม่รู้ ที่เจ้าเกียจคร้านต่อการเคาะระฆังก็เพราะในใจของเจ้าไม่มีระฆัง ความศรัทธาของเจ้าไม่พอ เจ้าจึงไม่เคารพในหน้าที่ ใจของเจ้าจึงมีแต่ความเบื่อหน่าย หากเป็นเช่นนี้ เจ้าจะเป็นบรรพชิตที่ดีได้หรือ? แล้วอย่างนี้ เจ้าจะเหมาะกับหน้าที่ผู้เคาะระฆังอันสูงส่งนี้ได้อย่างไร”

“เป็น พระหนึ่งวัน ก็ต้องเคาะระฆังหนึ่งวัน” นี่เป็นคำเปรียบเปรยที่ชาวจีนมักจะพูดกัน แม้จะเป็นพระเพียงแค่วันเดียว ก็ต้องสำนึกรับผิดชอบต่อบทบาทและหน้าที่ของตน เคาะระฆังคือภาระหน้าที่ของพระ ก็ควรทำหน้าที่ให้สุดความสามารถ นี่คือการเคารพในหน้าที่ หากทำได้เช่นนี้ ก็เท่ากับในใจมีระฆัง ในใจมีพระพุทธะสถิตอยู่
เหมือนกับการบริหารงาน ตั้งแต่ผู้จัดการยันถึงพนักงาน แม้จะต่างกันที่บทบาท แต่ก็ได้ชื่อว่าทำงานเหมือนกัน ไม่ต่างอะไรกับพระที่เคาะระฆัง ระฆังอาจมีเล็กใหญ่ต่างกันไป ช่วงเวลาที่รับผิดชอบ เช้า สาย บ่าย หรือเย็น แต่หน้าที่ก็คือเคาะระฆัง
อย่าได้ใส่ใจกับเรื่องของผู้อื่นให้มาก ขอเพียงเคาะระฆังของตนให้ดีก็พอ ทำได้เช่นนี้ก็ย่อมไม่ผิดต่อหน้าที่ ในใจย่อมมีระฆัง มีพระพุทธะ !

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง :
ฟ้า ดิน สรรพสิ่ง ต่างหน้าภาระหน้าที่
หน้าที่ของฟ้า คือการปกคลุมสรรพสิ่งใต้หล้า ให้น้ำฝนหลั่งชุ่มชโลม ให้สรุยันจันทราสาดแสงส่อง
หน้าที่ของดิน คือการโอบอุ้มรองรับสรรพสิ่ง ให้การเลี้ยงดูชุบเลี้ยง

มองในมุมของสัตว์
ไก่ใช้เสียงปลุกมนุษย์ให้ตื่นในยามรุ่งอรุณมาเยือน
สุนัขเฝ้าบ้านในยามรัติกาลมาถึง
ผึ้งให้น้ำหวาน
ตัวไหมให้เส้นใย
วัวควายช่วยไถคราด
ม้าช่วยแบกหาม

มองในมุมของพืช
ผลิดอก ออกผล เพื่อหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง

มองในมุมของมนุษย์
หน้าที่ของมนุษย์ คือการรับผิดชอบหน้าที่ของตน
หน้าที่ของแม่ คือการกล่อมเกลาสอนสั่งบุตรธิดา
หน้าที่ของนักเรียนนักศึกษา คือการตั้งใจเรียนหนังสือ หาวิชาความรู้
หน้าที่ของปัญญาชน คือการสนองเบื้องสูงนำพาเบื้องล่าง มีความการุณย์เป็นที่ตั้ง ยอมพลีชีพเพื่อผดุงธรรม
หน้าที่ของอริยชน คือการสรรค์สร้างคุณธรรม ประกาศหลักสัจธรรม ฉุดช่วยเวไนย

No comments:

Post a Comment