เมื่อ เดินทางมาถึงบ้านของชายผู้นั้น ผู้เป็นภรรยาก็ได้ออกมาต้อนรับท่านอาจารย์เอี๋ยนซิน ในขณะที่การสนทนาธรรมผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ปรากฏแม้แต่น้ำสักแก้วที่จะนำมาต้อนรับแขกผู้มาเยือน ท่านอาจารย์เอี๋ยนซินจึงประจักษ์แก่ใจว่า หญิงผู้นี้ช่างเป็นคนตระหนี่เสียจริง ๆ ท่านจึงเอ่ยออกมาว่า
“สีกา เธอจงดูนี่สิ! หากอาตมากำมืออยู่อย่างนี้ทุกวันทุกเวลา เธอมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร ?”
“มันย่อมเป็นเรื่องแปลกพิกลอยู่นะเจ้าคะ!” นางตอบออกไป
“และหากว่ามือของอาตมาตั้งตรงอยู่อย่างนี้โดยไม่หักไม่งอเลยทุกวันทุกเวลา มันจะเป็นอย่างไรหนอ ?”
“มันก็เป็นเรื่องแปลกพิกลนะสิเจ้าคะ!” นางตอบ
ท่านอาจารย์เอวี๋ยนซินพยักหน้า และกล่าวสรรเสริญออกมาว่า
“ถูก ต้องแล้ว นั่นเป็นเรื่องแปลกพิกลอยู่ หากเอาแต่ได้ ไม่อยากทำบุญให้ทานก็เป็นคนแปลกพิกล หากเอาแต่ให้ไม่รู้จักอดออมก็เป็นคนแปลกพิกล เงินทองนั้นต้องรู้จักใช้สอย มวลชนจึงสามารถสรรค์สร้างชีวิตอันผาสุกให้สังคมได้”
เมื่อฟังจบ นางจึงน้อมกายลงกราบพระอาจารย์เอวี๋ยนซิน
คนโลภ พึงรู้จักการสละให้ทาน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของความมั่งมี ไม่เพาะปลูก ไหนเลยจะถามหาเก็บเกี่ยวได้ ผู้นิยมการทำบุญให้ทาน จะต้องวางตนให้เป็นกลาง รู้กำลังแห่งตน หากการดำรงชีวิตของตนยังขัดสน แล้วเอาเงินไปช่วยผู้อื่น ไม่ดูแลครอบครัวตน นี่ก็มิใช่การให้ทานที่เป็นสัมมา
การบำเพ็ญธรรมก็เช่นกัน หากไม่เข้าใจจุดหมายแห่งการบำเพ็ญปฏิบัติธรรม ก็ย่อมแปลกพิกล!
No comments:
Post a Comment