เมื่อดูจากกาลก่อนการปฏิบัติบำเพ็ญของลูกกตัญญในสมัยโบราณ หากมาเทียบกับเราในปัจจุบันยิ่งห่างกันนักหากเรายังปฏิบัติตนอยู่เช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นลูกอกตัญญูที่สุดในสมัยนั้น ความกตัญญูเป็นพื้น ฐานของมนุษย์ไม่ว่าคัมภีร์ใดจะมากมายก็มิสามารถจะจารึกความลึกซึ้งของมันได้หมด มันเป็นพื้นฐานเป็นที่อยู่ในจิตใจของมนุษย์ ต้องอาศัยการปฏิบัติ มิใช่เพียงการสำนึกเท่านั้น ความกตัญญมิใช่ร้องไห้ต่อพ่อแม่แล้วสำนึกว่าผิดไปแล้วแค่นั้น ความกตัญญูมิใช่ให้พ่อแม่ได้กินอิ่มหนำสามมื้อเท่านั้น กตัญญูมิใช่ให้แค่ความสบายอกสบายใจแก่พ่อแม่เท่านั้นหรือความกตัญญูมิใช่ต่างๆ นานามากมายที่จารึกไว้ในคัมภีร์เท่านั้น แต่ความกตัญญูสามารถปรากฏได้ในจิตใจของเราเอง ในการกระทำของเรา ลองพิจารณาตัวเองซิวันนี้ทำให้พ่อแม่ต้องเจ็บปวดรวดร้าวใจบ้างหรือไม่ วันนี้ต้องทำให้พ่อแม่เป็นกังวลต่อเราหรือไม่ วันนี้เคยทำให้พ่อแม่ ได้ ยิ้มแย้มแจ่มใสออกมาได้แล้วหรือยัง แล้วรู้หรือไม่ว่าความ กตัญญูต้องเริ่มจาก จุดไหน ลองรำลึก ย้อนถึงใบหน้าที่มีแต่ ความเมตตาในจิตใจ ของผู้เป็นพ่อและแม่นึกถึงร่างกายของ ท่านที่เคยหนุ่มแน่นกำยำ และค่อยๆ แก่ ชราลงด้วยการทำงานหนัก ใช้แรงงานแลกเงินจับจ่ายใช้สอยใน ครอบครัวโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย นึกถึงคำพูดกล่าวสอนคำแล้วคำเล่าที่เตือนเอาอย่างที่หาคณานับไม่ได้ กี่ครั้งที่ท่านต้องโมโหเพราะเรา กี่ครั้งที่ท่านต้องหลั่งน้ำตาความปวดร้าวในอกของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ มิเคยถ่ายทอดให้ลูกได้รับรู้ สีหน้าที่แสดงออกทุกวันเพื่อให้ลูกแจ่มใส เติบโตขึ้นมาเป็นคนดีมีมโนธรรมสำนึก มีจิตใจที่ระลึกถึงคุณคน ถึงแม้จะไม่ได้รับการตอบแทนจากลูก แต่ก็ยังคงมีจิตใจอย่างเช่นนั้นเรื่อยไป
กาลเวลาทำให้ท่านแก่ชราลง เราเคยนึกรังเกียจในความแก่ชราของพ่อแม่เราหรือไม่ ในจิตใจส่วนลึกเคยนึกละอายใจที่มีพ่อแม่หน้าตาไม่สะสวยหรือไม่ ในจิตใจของเราเคยรังเกียจดูแคลนว่าท่านเป็นผู้ที่ยากจน เป็นผู้ที่ไม่มีประโยชน์แล้วหรือสำหรับเรา ในจิตใจส่วนลึกนั้นหากมีให้ถอนรากถอนโคน เอาความนึกคิดเหล่านั้นออกไปเลยปฏิบัติตนปฏิบัติตัวเป็นคนใหม่ ใส่รากธรรมแห่งความกตัญญูลงไปให้เต็มที่ ปฏิบัติจิตใจแห่งความกตัญญูต่อคุณพ่อคุณแม่จนสุดความสามารถในขณะที่ท่านยัง มีชีวิตอยู่ อย่ารอที่จะโอบกอดพ่อแม่ในขณะที่ท่านเลยชีวิตไปเสียแล้ว แล้วสำนึกว่าไม่ได้ดูแลไม่ได้เอาใจใส่ เมื่อนั้นก็สายเกินไป.
กาลเวลาทำให้ท่านแก่ชราลง เราเคยนึกรังเกียจในความแก่ชราของพ่อแม่เราหรือไม่ ในจิตใจส่วนลึกเคยนึกละอายใจที่มีพ่อแม่หน้าตาไม่สะสวยหรือไม่ ในจิตใจของเราเคยรังเกียจดูแคลนว่าท่านเป็นผู้ที่ยากจน เป็นผู้ที่ไม่มีประโยชน์แล้วหรือสำหรับเรา ในจิตใจส่วนลึกนั้นหากมีให้ถอนรากถอนโคน เอาความนึกคิดเหล่านั้นออกไปเลยปฏิบัติตนปฏิบัติตัวเป็นคนใหม่ ใส่รากธรรมแห่งความกตัญญูลงไปให้เต็มที่ ปฏิบัติจิตใจแห่งความกตัญญูต่อคุณพ่อคุณแม่จนสุดความสามารถในขณะที่ท่านยัง มีชีวิตอยู่ อย่ารอที่จะโอบกอดพ่อแม่ในขณะที่ท่านเลยชีวิตไปเสียแล้ว แล้วสำนึกว่าไม่ได้ดูแลไม่ได้เอาใจใส่ เมื่อนั้นก็สายเกินไป.
No comments:
Post a Comment