Friday

พระในบ้าน อีกเล่มหนึ่ง

พระคุณพ่อ
เก็บดอกพุทธรักษาบูชาพ่อ พระผู้ก่อกำเนิดเกิดกายฉัน ไม่มีพ่อลูกคงไร้ซึ่งชีวัน พระคุณนั้นยิ่งใหญ่หาใดปาน พ่อให้ชีวิตผลิตผลเป็นคนดี ให้ลูกมีการศึกษาเป็นพื้นฐาน เป็นพ่อพิมพ์ที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล ขอกราบกรานด้วยเกล้าแทบเท้าบิดร

พระคุณแม่
เก็บมะลิใส่พานพูนทูนเหนือเศียร พร้อมธูปเทียนกราบแด่แม่ของฉัน พระคุณแม่มากล้นพ้นอนันต์ ยากจะสรรค์สิ่งใดทดแทนคุณ ให้กษีรธาราเลือดในอก คอยป้องปกลูกน้อยให้ตักหนุน ลูกร้องไห้มีแม่ปลอบลูกขอบคุณ อกแม่อุ่นให้ลูกซบยามโศกทรวง อันความรักของใครที่ว่าแน่ ย่อมพ่ายแพ้แม่รักลูกแสนใหญ่หลวง รักของแม่ช่างบริสุทธิ์ไม่หลอกลวง ชนทั้งปวงควรรู้ค่ามารดาเรา

คุณแม่กับแม่คุณ
ระหว่างคุณแม่และแม่คุณ มีคุณค่าต่างกัน คุณรักแม่คุณหนักหนา แต่คุณลืมว่า ยังมีคุณแม่ ที่คอยคุณกลับมาเหลียวแลท่านบ้าง อย่ารักแม่คุณจนลืมคุณแม่ เพราะคุณแม่รักคุณแท้กว่าแม่คุณ

คิดถึงลูก
พ่อกับแม่ไม่มี เงินทอง จะกองให้ จงตั้งใจ พากเพียร เรียนหนังสือ หาวิชา ความรู้ เป็นคู่มือ เพื่อยึดถือ เอาไว้ ใช้เลี้ยงกาย พ่อกับแม่ มีแต่ จะแก่เฒ่า จะเลี้ยงเจ้า เรื่อยไป นั้นอย่าหมาย ใช้วิชา ช่วยตน ไปจนตาย ลูกสบาย แม่กับพ่อ ก็ชื่นใจ

น้ำตาพ่อแม่
พ่อแบกไถ ไปนา แต่ฟ้าสาง ลูกคิดสร้าง ความชั่ว ให้มัวหมอง แม่รดผัก ตักน้ำ ในลำคลอง ลูกไปจอง ตั๋วหนัง แต่เยาว์วัย พ่อถากฟัน ดินนา จนฟ้าสาง ลูกสบาย อัดบุหรี่ มีความฝัน แม้กินข้าว กับเกลือ เมื่อเที่ยงวัน ลูกสุขสันต์ ข้าวมันไก่ ใจใหญ่พอ มือพ่อแตก บอบช้ำ ปล้ำถางป่า ลูกเที่ยวบาร์ เต้นรำ ช้ำใจหนอ แม่นุ่งผ้า ผืนหนึ่ง ซึ่งมอซอ ลูกสุดหล่อ นุ่งมอร์ส ยอดไปเลย พ่อตัวดำ หลังคู้ อยู่กลางทุ่ง ลูกมัวยุ่ง เรื่องผู้หญิง ไม่นิ่งเฉย แม่รับจ้าง ตามลำเค็ญ ไม่เว้นเลย ลูกไม่เคย ตั้งใจ ในการเรียน พ่อร้องไห้ เมื่อทราบข่าว เงินตราหมด ลูกคิดคด ทำให้พ่อ ก่อปวดเศียร แม่ถางไร่ ไถนา แทบอาเจียน ลูกไปเรียน กลับรีดไถ ไร้เงินตรา

วันเกิดลูก
งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง วันเกิดส่งชีพนั้นเร่งวันตาย อีกมุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้ หญิงแก่แก่นั่งหงอยและคอยหาย โอ้วันนี้ในวันนั้นอันตราย แม่คลอดสายโลหิตแทบปลิดชนม์ วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่ เจ้าท้องแท้เท่าไหร่ก็ไม่บ่น กว่าอุ้มท้องกว่าจะคลอดรอดเป็นคน เติบโตจนบัดนี้ นี้เพราะใคร แม่เจ็บเจียนขาดใจในวันนั้น กลับเป็นวันลูกฉลองผ่องใส ได้ชีวิตเลือดเนื้อ...วิญญาณไป ได้ทั้งความรู้การอบรม ได้ชีวิตแล้วก็เหลิงระเริงนะ ลืมแม่จ๋า แม่จ๊ะ สนิทสนม ลืมอ้อมอกแม่กล่อมพร้อมให้นม เจ้าลืมพรหมของชีวิต...อนิจจา ไหนจึงเรียกกันว่าวันเกิด วันผู้ให้กำเนิดจะถูกกว่า คำอวยพรที่เขียนควรเปลี่ยนมา ให้มารดาคุณเป็นสุขจึงถูกแท้ เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ ควรที่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่ รำลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด อย่ามัวแต่จัดงานเบิกบานอุรา เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดคะ ควรที่จะกลับมากราบแม่จ๋า รำลึกถึงพระคุณอุ่นชีวา ให้มารดาคุณเป็นสุข สุขนิรันดร ์

วันแม่
พ่อไม่ออก บอกไม่ถูก ลูกรักแม่ เพราะเพียงแค่ วันเดียว เฉี่ยวมาเห็น ใช้วันแม่ หลีกไกล ไม่จำเป็น อย่าเคี่ยวเข็ญ ไม่ฟัง ช่างปะไร ส่วนแม่เล่า เฝ้ารอ ใช่ขอลูก จิตพันผูก รักลูก ทุกข์แค่ไหน แม่ห่วงใย แม้รู้ลูก สุขยิ่งนา ขอได้โปรด ไปเยี่ยมแม่ ผู้แก่เฒ่า ท่านคอยเฝ้า ชะเง้อแง้ เฝ้าแลหา ของกินนิด ปัจจัยหน่อย ค่อยนำพา เรียกน้ำตา แม่ไหล ใช่แสแสร้าง พระคุณแม่ จึงล้ำเลิศ ประเสริฐยิ่ง เป็นความจริง ทุกผู้ ย่อมรู้แจ้ง รักห่วงลูก ตลอดไป ไม่เปลี่ยนแปลง เมตตาแฝง ฝากทั่ว ทุกตัวตน แม่คือพรหม คือพระ ทุกขณะจิต แม่คือมิตร คือครู ผู้สอนสน เฝ้ากล่อมเกลี้ยง เลี้ยงลูก มากหลายคน แม่ของตน คนเดียว ไม่เหลียวมอง จึงขอให้ วันแม่นี้ มีทุกวัน อย่าแปรผัน เยี่ยมเยียน เพียรสนอง คอยดูแล แม่เรา เฝ้าประคอง มาคอยมอง แม่บ้าง อย่าห่างไกล

เมื่อพ่อแม่ ท่านแก่เฒ่า เฝ้ารับใช้ อย่าปล่อยให้ ท่านเงียบเหงา เศร้าผวา ช่วยคุ้มภัย ให้คลายทุกข์ สุขอุรา ท่านชรา ร้องหาลูก อยู่ทุกวัน

ปลูกถั่วย่อมได้ถั่ว ปลูกงาย่อมได้งา ลูกกตัญญู ย่อมได้ลูกกตัญญู การกระทำของเรา จะเป็นตัวอย่างของลูกหลานสืบไป

กว่าจะเลี้ยงดูให้เติบใหญ่ พ่อแม่ต้องแบกทุกข์หวาดภัยเพียงใด ระวังมีดไม้ฟืนไฟ ระวังโรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ อาหารแต่ละคำ... ตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย จนลูกน้อยเจริญวัย... ใครเล่าจะเข้าถึง ซาบซึ้งกตัญญู

มนุษยชาติสืบสายเผ่าพันธุ์ อยู่ร่วมกันมาช้านานได้ด้วยกตัญญู ความกตัญญูรู้คุณ หนุนให้เกิดความเมตตากรุณา ความเมตตากรุราเป็นเครื่องค้ำจุนโลก ความกตัญญูจึงอยู่เหนือความดีทั้งปวง

สิ่งใดที่ทำให้พ่อแม่มีความสุขได้ โดยไม่ผิดต่อศีลธรรม ไม่เป็นการก่อหนี้เวรกรรม ไม่ทำให้อัปยศอดสูฯ ลูกกตัญญูพึงยินดี

เมื่อพ่อแม่ตาย ให้อุปการะน้องๆ ให้เอื้อเฟื้อดูแลคนที่พ่อแม่ห่วงใย ให้มีอัธยาศัยกับคนที่พ่อแม่เคยคบค้าฯ ทำหน้าที่แทนพ่อแม่มิให้บกพร่อง เช่นนี้ก็ได้ชื่อว่าลูกกตัญญู

No comments:

Post a Comment