Friday

พระในบ้าน - พระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม

ความกตัญญูคือความรู้สึกที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจเราทุก คน บิดามารดาคือใครในภาพพจน์ของตัวเรา คือคนรับใช้หรือคนที่คอยบริการให้กับเรา หรือผู้ที่เราสามารถดุด่าว่ากล่าวได้ใช่หรือไม่ พ่อแม่ของปราชญ์เมธีคือพระพุทธะที่อยู่ในภาพพจน์ของคำเหล่านั้น ลองนึกถามใจตัวเองดูว่าพระพุทธรูปที่แท้จริงที่อยู่ในใจของเราคือใคร คือพระพุทธรูปที่อยู่ในวัดวาอาราม คือพระสงฆ์องค์เจ้าที่เรากราบไหว้ใช่หรือไม่ ?
     ในครั้งอดีตที่เรายังมีกายนี้ พระบิดาของเราได้ทำความผิดอย่างร้ายแรง นั่นเพราะความมีกิเลสอวิชชาที่ครอบงำ แต่เราผู้เป็นธิดาของพระองค์มิสามารถทนเห็นความชั่วร้ายที่ท่านได้กระทำผิดต่อไปได้ แม้เราจะตักเตือนอย่างไรก็ไม่เป็นผล แต่ความรู้สึกที่ฝังลึกอยู่ในใจนั้นเป็นความเจ็บปวดรวดร้าว มีสิ่งเดียวที่เราจะสามารถฉุดช่วยพระบิดาได้นั่นคือความดี เราจะต้องทำความดี สร้างความดีกับเหล่าเวไนย์ทุกผู้คนเพื่อนำกุศลเหล่านั้นอุทิศให้กับพระบิดา ถึงแม้ว่าพระบิดาจะกล่าวหาว่าเราเป็นธิดาไร้ความกตัญญู แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ความกตัญญูใช่เพียงการปรนนิบัติให้มีความสุข แต่ความกตัญญคือความดีงามที่อยู่ในจิตใจของพุทธะทุกๆ คน พระบิดาของเราที่สร้างความชั่วร้ายไว้มากมายได้กระทำผิดไว้มากมายจนไม่สามารถที่จะลบล้างได้ ผลสุดท้ายอะไรที่ทำให้พระบิดาของเราสำนึก เบื้องบนได้ทดสอบถึงความจริงใจของเราที่มีต่อพระบิดา จึงต้องใช้ดวงตา ใช้แขนแลกกับบาปที่พระบิดาได้สร้าง หากตอนนี้พ่อแม่เราไม่สบายอย่างหนัก เราจะต้องใช้กายนี้อุทิศให้เสมอ เราจะยอมหรือไม่บ่อยครั้งอาจพูดได้ แต่พอเวลามาถึงเป็นอย่างไร ทุกคนย่อมมีความเห็นแก่ตัวในตัวตน
     ธรรมะถูกส่งมาเพื่อให้พุทธจิตของเรานั้นสว่างไสวให้พบถึงความกตัญญู ให้สำนึกถึงความดีงาม เราทุกคนลองคิดดูตั้งแต่เล็กจนโต พ่อแม่ได้มอบสิ่งใดให้กับเรามันมีแต่เป็นเพียงความรักความบริสุทธิ์ที่มอบ ให้ เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราจึงสามารถทำให้พระบิดารู้จักสำนึกกระทำแต่ ความดี นั่นเป็นสิ่งที่เราพึงปรารถนาอย่างที่สุด ไม่ว่าจะแลกด้วยเลือดเนื้อหรือจิตใจ อย่างไรก็ตามหากเราทุกคนรู้สำนึก เราจะปฏิบัติได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นอะไรคือความกตัญญูที่ยิ่งใหญ่ ก็คือบำเพ็ญตนให้หลุดพ้น หลุดพ้นจากห้วงแห่งกรรมทีสร้างมา
     จิตเมตตาคือจิตที่บริสุทธิ์ที่พ่อแม่มอบให้กับเรา ขอให้เรารู้สำนึกรีบตอบแทนคุณที่ท่านได้ให้ไว้ ไม่ว่าพ่อแม่จะดีเลวชั่วร้ายอย่างไรก็ตาม ท่านก็คือพ่อแม่ของเรา ต่อให้เราคิดว่าพ่อแม่มิได้เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ท่านก็คือพ่อ แม่ของเรา ในโลกนี้ไม่มีความดีใดที่จะเปรียบเทียบเท่าได้กับความกตัญญูทั้งสิ้น หากเราทำดีทุกอย่างแต่ขาดซึ่งความกตัญญูก็ขอให้รู้ว่าความดีที่ทำกันมานั้น ไรประโยชน์โดยสิ้นเชิง เราอยากให้ท่านทั้งหลายรู้ซึ้งถึงความกตัญญูให้มากกว่านี้ รู้สำนึกรู้พินิจตรึกตรองให้มากกว่านี้พ่อแม่ คือพระเจ้าที่อยู่ในใจ พ่อแม่ คือสมบัติล้ำค่าที่อยู่ในใจพ่อแม่คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วิเศษที่สุดมากกว่า สิ่งใด เงินทองมากมายมิสามารถเทียบเท่ากับจิตใจของพ่อแม่ได้เลย
     ย้อนถึงอดีตจวบปัจจุบัน อุ้งมือและเท้าที่พ่อแม่ทำงานงกๆ อยู่นอกบ้านมีความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด บางครอบครัวแบบไม่มีจะกิน แต่พ่อแม่ ก็สามารถอดออมให้กับลูกๆ ได้ ซึ่งความเหน็ดเหนื่อยมิเคยปริปากบ่น เราทุกคนผู้เป็นลูกมีแต่ความสนุกรื่นเริง ไม่รู้ถึงความทุกข์ยากลำบากของพ่อแม่ วันนี้เราเป็นลูก ในวันต่อไปเราได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อแม่ของคน เราก็จะสำนึกถึงความดีอันนั้นของพ่อ แม่ ได้
     คน ที่เป็นพ่อแม่แล้วคงจะรู้ซึ้งถึงความลำบากที่พ่อแม่ได้กระทำให้กับเรา ความสำนึกมีได้อยู่ชั่วขณะ หากเราคิดที่จะสำนึก ถึงแม้พ่อแม่ที่ตายจากไป เราคิดว่าเขาตายจากเราไปแล้วก็หมดบุญเพียงเท่านั้นแต่เราเคยรู้สึกบ้างหรือ ไม่ว่าใจของพ่อแม่ที่มีให้กับลูกไม่เคยมีวันดับไม่มีสิ่งใดสามารถมาแยกให้ ขาดกันได้ บางครั้งเราออกไปเที่ยวนอกบ้าน เรามีแต่ความสนุกสนาน แต่พ่อแม่ที่อยู่ที่บ้านเราเคยนึกถึงท่านบ้างไหม แต่พ่อแม่นั้นเวลาตนมีความสุขก็จะนึกถึงลูกอยู่ตลอดเวลา ไม่กล้าที่จะได้รับความสุขนั้นแต่เพียงผู้เดียว เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เราควรเร่งสำนึก

No comments:

Post a Comment