พระที่ถูกมองข้าม
มีชนบทแห่งหนึ่งในประเทศจีน ตั้งอยู่เชิงเขาเป็นภูมิประเทศที่สงบ อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร มีลำธารใสไหลผ่านหมู่บ้าน ต้นไม้ทุกต้นใบสดเขียวขจี ในทุ่งนาก็สะพรั่งด้วยต้นข้าวที่ชูรวงเป็นสีทอง ตัดกับท้องฟ้าสีครามมองไปทางไหนก็ชื่นฉ่ำเจริญตา ชาวชนบทส่วนใหญ่มีอาชีพออกไปทำไร่ทำนา ผู้อยู่เรือนก็ปั่นฝ้ายทอผ้า ต่างมีความสุข มีฐานะมั่งคั่ง เหนือขึ้นไปบนยอดเขามีกุฏิพระภิกษุอยู่จำศีลภาวนา เชิงเขามีกระท่อมน้อยหลังหนึ่ง เป็นที่อยู่ของสองแม่ลูก แม่นั้นแม้อายุจะย่างเข้าสู่วัยชรา แต่นางยังแข็งแรงพอที่จะรับจ้างเขาทำงานหาเลี้ยงลูกได้ บุตรของนางเป็นเด็กรุ่นหนุ่มใหญ่ ไม่เอาการเอางาน ดื้อด้านไม่เชื่อถ้อยฟังคำมารดา ไม่สนใจในความเหนื่อยยากของแม่ที่ตรากตรำทำงานหนัก เอาแต่เที่ยวเตร่เล่นสนุก ถึงกระนั้นนางก็รักเขา อย่างสุดสวาทขาดใจ คอยเอาอกเอาใจมิให้อนาทร วันหนึ่งเขาแลเห็นเพื่อนกราบพระพุทธรูป ก็นึกในใจว่าการที่เพื่อนของเขามีฐานะดี คงเป็นเพราะหมั่นกราบไหว้พระ เย็นวันนั้นเขาขึ้นไปบนเขา เข้าไปมนัสการขอพระพุทธรูปจากพระภิกษุที่พำนักอยู่บนยอดเขา เพื่อเอาไปไว้บูชาที่เรือน หวังจะได้มั่งคั่งเหมือนคนทั้งหลาย พระภิกษุได้ฟังก็กล่าวว่า “ฟังก่อน เหม็ง เจ้าจะแก้บนด้วยการกราบไหว้พระนั้นไม่สำเร็จดอก ป่วยการเปล่าในเมื่อที่เรือนของเจ้าก็มีพระอยู่แล้ว จงเคารพบูชาท่านเถิดเจ้าจะจำเริญ” เหม็งได้ฟังก็ฉงน อุทานว่า “ที่บ้านของกระผมไม่เคยมีพระสักองค์ กระผมยากจนหนักหนา จึงอยากได้ไปไว้บูชากับเขาบ้าง” พระภิกษุยังคงยืนกรานว่า “กลับไปเถิดเหม็ง พระเฝ้ารออยู่ที่บ้านแล้ว กลับถึงบ้านคืนนี้ เมื่อเจ้าเคาะประตูท่านจะออกมาเปิดรับเจ้าอย่างรีบร้อน ผลีผลามเสียจนใส่รองเท้ากลับข้าง เสื้อที่สวมก็กลับด้านนอกอยู่ข้างใจ” เหม็งได้ฟังดังนั้นก็สนเท่ห์ยิ่งนัก นมัสการลาพระภิกษุรีบกลับฝ่าลมหนาวและละอองน้ำค้างมาตลอดทาง กว่าจะถึงบ้านก็เปียกโชกไปทั้งตัว ทันทีที่เขาเคาะประตูกระท่อม ผู้ที่เปิดประตูรับเขา ก็คือมารดาของเขานั่นเอง เหม็งสังเกตเห็นนางสวมรองเท้ากลับข้าง เสื้อที่ใส่ก็กลับ พอเห็นลูกชาย นายก็เอ่ยขึ้นว่า “เหม็ง...ลูกหายไปไหนมา แม่เป็นห่วงกลัวลูกจะไปเป็นอันตราย แม่ตั้งตาคอยตั้งแต่หัวค่ำจนดึกอ้าว นั่น...ลูกเปียกปอนไปหมดทั้งตัว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียแล้วไปผิงไฟที่หน้าเตา เจ้าหิวไหม แม่จะไปเอาข้าวมาให้กิน กระแสเสียงที่หลั่งออกมานั้นนุ่มนวลนัก เปี่ยมด้วยความรัก ความห่วงใย ความเมตตาปราณีที่บริสุทธิ์ใจ เขาหวลระลึกถึงคำของพระภิกษุบนยอดเขา ก็ประจักษ์แจ่มแจ้งในบัดนั้นเองว่า มีพระอยู่ใกล้ตัวมาแต่อ้อนแต่ออก แต่เขาเองละเลยไม่เคยคิดเอาใจใส่ แม่เท่านั้นที่จะเสียสละให้ลูกได้ ทั้งชีวิตและเลือดเนื้อ มุ่งหวังแต่จะให้ลูกมีความสุขความเจริญ แม่เป็นผู้มีแต่ให้ ไม่หวังสิ่งตอบแทนตัวกูนี่สิ มีแต่จะรับเอาท่าเดียว นับแต่นั้นมา เขาก็บำเพ็ญตนอยู่ในโอวาท เทิดทูนเคารพบูชามารดาของเขาเหนือสิ่งใดๆ ในโลก
No comments:
Post a Comment