Thursday

พระในบ้าน - พระโอวาทพระโพธิสัตว์อนุศาสน์

ถามใจตนเองจวบบัดนี้เติบใหญ่ ใครเล่าให้กายสังขารเลี้ยงดู ใครเล่าที่คอยโอบอุ้มปลอบโยนให้กำลังใจเรายามท้อแท้ ตอนนี้บุพการีของเราอยู่ที่ไหน ท่านทุกข์ยากลำบากเพียงไร ใครคอยดูแลท่านอยู่บ้าง ยามหนาวร้อนมีใครคอยดูแลเอาใจใส่ การกล่าวด้วยวาจานั้นมิสำคัญเท่าการปฏิบัติที่แท้จริง สังคมปัจจุบันเปรียบกับโบราณมิได้เลย จิตใจคนนั้นห่างหายจากความกตัญญูยิ่งนัก กลับตาลปัตร พ่อแม่เลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ น้อยคนนักที่คิดจะตอบแทนบุญคุณบุพการีของตนอย่างจริงใจ ด้วยสายใยตนนั้น ความกตัญญูเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง แม้แต่สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายยังรู้คุณพ่อแม่ เราซึ่งเป็นมนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐยิ่ง เราตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่แล้วหรือยัง
จิตใจคนปัจจุบันมักหลงใหลไปกับสังคมกับแสงสีต่างๆ มักไม่ค่อยเชื่อฟังคำตักเตือนของบิดามารดา บิดามารดานั้นรักบุตรอย่างสุดหัวใจ จึงได้กล่าวชี้แนะตักเตือนแต่บุตรนั้นไม่สนใจในความหวังดีของพ่อแม่ การบำเพ็ญธรรมนั้นเป็นการกตัญญูที่ยิ่งใหญ่สูงส่งยิ่งนัก เรามิรู้ว่าบุพการี
นั้นละสังขารแล้วจิตญาณจะทนทุกข์ทรมานอย่างไรมีเพียงสิ่ง เดียวคือการปฏิบัติธรรม อุทิศบุญกุศลนี้ให้กับท่านเหล่านั้น ช่วยจิตญาณท่านเหล่านั้นพ้นจากความทุกข์ทรมาน
ผู้ที่อายุยังน้อยยังอยู่ช่วงวัยรุ่น การมาศึกษาธรรมนับเป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก ธรรมะช่วยควบคุมใจเรามิให้เราหลงร่าเริงไปกับแสงสีมายาภายนอก อายุยังน้อยจะต้องเชื่อฟังบิดามารดาของตน คำพูดของบิดามารดาที่ได้ตักเตือนสอนสั่งล้ำค่ากว่าทรัพย์สิ้นเงินตราใดๆ ในโลกหล้านี้ ยามบิดามารดายังมีกายสังขารต้องรู้ตอบแทนคุณ อย่ารอให้ท่านเหล่านั้นละกายสังขารจึงมาหลั่งน้ำตาคิดแทนคุณ อาจจะสายเกินไป
บุคคลใดกตัญญูเทพพิทักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมปกปักษ์รักษาคุ้มครอง แม้ภูติผียังกลัวเกรง หากบุคคลใดขาดความกตัญญู กระทำสิ่งใดก็ยากที่จะสำเร็จได้.

No comments:

Post a Comment