ยิ่งถ้าหากเราตั้งใจปฎิบัติพัฒนาตน จนกระทั่งมีความรู้ มีความสามารถไปแนะนำสั่งสอนท่านได้ด้วยแล้ว ลองคิดดูว่าท่านจะชื่นใจมากขนาดไหน เมื่อลูกของท่านมีความรู้ความสามารถแนะนำท่านได้ ท่านก็ดีใจ เราก็เป็นผู้ที่ตอบแทนพระคุณของท่านทำให้ ท่านซึ่งไม่ศรัทธา ศิล จาคะและปัญญา ได้เกิดมีศรัทธา ศิล จาคะและปัญญาขึ้นมา ท่านก็จะได้รับความสุขทางธรรมะ เพราะท่านได้มีฝึกฝนตนเองเช่นเดียวกับเราเหมือนกัน เพราะฉะนั้นใครที่บวชมาแล้ว ถ้าสามารถบวชตลอดไปได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก แม่บางคนก่อนสิ้นใจได้ขอร้องลูกว่า ขอให้บวชตลอดชีวิต เพราะถ้าบวชแล้วแม่จะสบายใจ ไม่ต้องห่วงลูกคนนี้ และก็จะทำประโยชน์ได้มาก แม่ก็ได้บุญมาก อย่างท่านเจ้าคุณพระอุปชฌาย์ของหลวงพี่ ท่านเป็นลูกคนเดียว และแม่ขอร้องไว้ก่อนตาบว่าอย่าสึกเลย บวชตลอดไปดีกว่า ท่านก็บวชให้แม่ ท่านเป็นลูกคนเดียว พ่อถึงกับร้องไห้อยากให้สึก แต่ท่านก็รักแม่มาก ท่านจึงยังคงอยู่ในพระศาสนามาจนกระทั่งปัจจุบัน เป็นเหตุทำประโยชน์ได้มากมาย ช่วยสร้างวัด พัฒนาท้องถิ่น ช่วยบริหารกิจการพระศาสนา ช่วยให้การอบรมสั่งสอนกุลบุตร กุลธิดาและประชาชนเป็นจำนวนมาก นี่เพราะท่านรักแม่ และแม่เป็นกำลังใจให้มั่นคงในพระพุทธศาสนา ทีนี้ถ้าหากว่าใครจะต้องสึกไปทำหน้าที่ในบ้านในครอบครัวก็ขอให้เราทำหน้าที่ให้ดี ในฐานะที่เราผ่านการอบรมสามเณรมาแล้ว เราเป็นลูกก็ทำหน้าที่ของลูกให้พร้อม เราเป็นพี่ก็ช่วยเลี้ยงน้องเอื้อเฟื้อเกื้อกูลน้อง เพื่อแบ่งเบาภาระพ่อแม่ ถ้าเราเป็นน้องเรา ก็มีความสมัครสมานสามัคคีกลมเกลียว และเชื่อฟังพี่เพื่อให้ พ่อแม่สบายใจ
ลูกอกตัญญูสู้ไม้เท้าก็ไม่ได้
อย่าให้พ่อแม่มีความทุกข์ ถ้าใครทำให้พ่อแม่มีความทุกข์น้ำตาตก คนโบราณท่านว่าจะตกนรกชั้นอเวจี แต่พ่อแม่ท่านรักเราแม้เราจะทำให้ท่านขมขื่น ท่านก็กล้ำกลืนให้อภัย พยายามจะไม่น้ำตาตก เพราะรู้ว่าถ้าน้ำตาตกแล้วลูกจะต้องทุกข์ร้อนอยู่ในนรก เพราะฉะนั้น ถ้าเรารักและเห็นใจพ่อแม่ เราก็ต้องทำให้พ่อแม่สบายใจ ไม่มีความทุกข์ความเดือดร้อน ถ้าลูกเป็นอย่างนี้ก็เป็นลูกที่ทำบุญกุศลแก่ท่านมาก แต่ถ้าลูกคนไหนทำให้พ่อแม่เดือดร้อนอยู่เรื่อยๆ เกเรและเนรคุณ อย่างนี้มีค่าเท่าไม้เท้าสักอันก็ไม่ได้ ไม้เท้าดีกว่าลูกหลานที่อกตัญญูเป็นไหนๆ เพราะมีลูกก็มีแต่เรื่องร้อนใจ จะพึ่งไม่ได้ แต่ว่าไม้เท้านี้ยังพึ่งได้ในเวลาที่เดินทางไปไหนมาไหน และไม่ทำให้ท่านทุกข์ใจ เพราะฉะนั้นชีวิตของเราเกิดมาแล้วชาติหนึ่ง ก็ต้องทำคุณค่าให้สมกับที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา มีพ่อและแม่คอยสั่งสอนอบรมจิตใจ แต่ถ้าเราไม่ฝึกฝนตนเอง และไม่มีธรรมะคุณค่าของเราก็จะด้อยน้อยกว่าสัตว์เลี้ยง น้อยกว่าสิ่งของต่างๆ เสียอีก เพราะสัตว์เลี้ยงและสิ่งของไม่เคยทำให้ท่านน้ำตาตก มีแต่จะเป็นประโยชน์แก่ท่าน นี้ก็เป็นข้อคิดที่อยากจะฝากให้พวกเราได้พิจารณากัน
บางครั้งแม่ปากร้าย แต่ใจแม่ดีเสมอ
ความหวังดีของแม่นี้มีมาก พรรณนาได้ไม่รู้จักจบสิ้น บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่าแม่ของเรานี่ดุ แม่ของเรานี่พูดไม่ดี ไม่เป็นที่พอใจเรา แต่ขอให้ดูลึกซึ้ง ว่าในใจแม่นั้นมีแต่ความรักเรา บางทีแม่ก็มีความทุกข์บีบคั้น ทำให้อารมณ์ไม่ดี เพราะว่าแม่มีปัญหาทำให้พูดจาไม่ดีบ้างเราต้องเข้าใจสถานการณ์ของแม่ และถ้าเราเข้าใจเราก็จะมีความรัก ความเห็นใจ และให้อภัยแม่ได้เหมือนอย่างที่แม่ให้อภัยเราเสมอมา เคยมีเรื่องเล่าในคัมภีร์ว่า ลูกคนหนึ่งชอบหนีแม่ไปเที่ยวในป่า การป่าในป่านี้มันอันตราย เพราะว่าอาจจะไปพบงู พบเสือ ซึ่งแม่ก็เป็นห่วงไม่อยากให้ไป แล้วถ้าหากลูกอยู่บ้านก็ได้ช่วยงาน ได้ศึกษาเล่าเรียน การที่ลูกไปเที่ยวนี้ทำให้แม่ไม่สบายใจ แต่ห้ามปรามแล้ว ลูกก็ดื้อ ไม่เชื่อฟัง แม่ก็โกรธ (ที่จริงแม่ไม่ควรโกรธหรือไม่ต้องโกรธก็ได้) แต่ก็โกรธนี่ก็เพราะหวังดี ก็เลยบอกว่า ถ้าเองไปเที่ยวป่าขอให้ไปเจอควายป่า ทีนี้คนโบราณเขาถือว่า คนที่มีความดีมีศีลธรรมและมีวาจาสัจนั้นจะมีวาจาสิทธิ์ พูดอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อลูคนนี้หนีไปเที่ยวป่าก็เลยเจอควายป่าตรงเข้ามาจะขวิดรู้สึกกลัวมาก แต่ก็นึกในใจว่า ควายป่านี้คงจะมาเพราะแม่แช่งเรา เมื่อตอนก่อนมาว่า ถ้ามาเที่ยวป่าให้ไปเจอควายป่า ก็เลยอธิษฐานจิตว่า ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ในใจแท้จริงของแม่ปรารถนา ขออย่าให้เป็นไปตามที่แม่พูด แต่ให้เป็นไปอย่างที่แม่คิด อธิษฐานอย่างนี้ ควายป่าก็หายไป นี้หมายความว่าอย่างไร หมายความว่า แม้บางครั้งแม่จะดุจะด่าเรา แต่ในใจแม่ไม่ได้คิดประทุษร้าย ไม่ได้เกลียดชังหรือจะทำอันตรายลูก ควายป่าที่เห็นเป็นควายป่าที่สอนลูกให้ตกใจได้บทเรียน ให้รู้ว่าการไม่เชื่อฟังแม่มีผลร้ายอย่างไร แกก็เลยได้คิดสำนึกผิดแล้วรีบกลับบ้าน แม่ก็ดีใจ พอรู้ว่าลูกเจออันตรายไปเจอควายป่าที่ตัวเองแท้ๆ เป็นคนสั่งไปด้วยวาจาสิทธิ์ ก็เคืองแค้นควายป่าว่าจะมาทำอันตรายลูก เป็นอย่างนั้นไป แทนที่จะสาสมใจ นี่แสดงว่าความรักลูกของแม่เหนือสิ่งอื่นใด เพราะลูกเหมือนแก้วตาดวงใจของแม่นั่นเอง
รักแม่ต้องช่วยให้ท่านพ้นทุกข์
ความรักผูกพันห่วงใยของแม่นี้ บางทีถ้ามีมากเกินไปก็กลายเป็นปัญหาเหมือนกัน คือทำให้แม่เป็นทุกข์และต้องน้ำตาตกการทำให้พ่อแม่น้ำตาตกนี้มี 2 อย่าง คืออย่างหนึ่งเพราะลูกเห็นแก่ตัวชั่วช้า อย่างนี้ไม่ควรกระทำ แต่บางกรณีที่ลูกหวังดี หวังประโยชน์อันยิ่งใหญ่ เพื่อช่วยให้ท่านได้สิ่งที่ดีกว่า อย่างเช่นเจ้าชายสิทธัตถะออกบวช ทั้งที่พระราชบิดาและพระประยูรญาติไพร่ฟ้ามีน้ำตานองหน้า แต่ท่านก็ออกแสวงหาสัจธรรมเพื่อมาช่วยคนเหล่านั้น และมวลมนุษยชาติให้พ้นทุกข์ อย่างนี้ไม่เหมือนกัน เพราะไม่ได้ตามใจกิเลสสของตน จึงขอให้สามเณรเข้าใจให้ถูกต้อง การที่เรามาบวชฝึกฝนอบรมตน และทำประดยชน์แก่พระศาสนา และสังคมเป็นของดีที่พ่อแม่ควรอนุโมทนาและพลอยยินดีกับทั้งช่วยเหลือเกื้อกูลให้ลูกไปในทางสุขทางเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำ ในครั้งพุทธกาลมีเรื่องเล่าว่า พระกุมารกัสสป ซึ่งเป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ท่านเห็นแม่มีความผูกผันห่วงใยท่านมากเกินไป แม้แม่จะมาบวชเป็นภิกษุณีก็ไม่ได้ปฏิบัติธรรมให้พ้นทุกข์ ท่านจึงพูดถ้อยคำกระทบใจ ให้แม่เกิดมุมานะปฏิบัติธรรม ตัดรอนน้ำใจห่วงใยผูกพันลูกเสีย มิให้เสียที่อุตส่าห์มาบวช พอแม่หักใจได้ว่าลูกไม่ไยดีตนแล้วเท่านั้น ก็ขวนขวายปฏิบัติธรรม ในที่สุดก็บรรลุพระอรหัตตผลได้ นี้เป็นกรณีที่ลูกมีความหวังดีอย่างแท้จริงกับแม่ และจำเป็นต้องช่วยให้แม่ตัดใจไม่ผูกพันกังวลห่วงใยจนเกินไป เพื่อให้ท่านได้สิ่งที่ดีกว่าคือความสะอาด สว่าง สงบ ประกอบด้วยธรรมคือ ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา อันเป็นที่พึ่งที่แท้จริง เกิดขึ้นในตน
พระพุทธองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุด
ขอให้สามเณรดูพระจริยาวัตรของพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่างของ ลูกที่ดี คือท่านออกแสวงหาสัจธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ประสบความสำเร็จแล้วก็กลับมา สอนพระพุทธบิดา คือพระเจ้าสุทโธทนะ ให้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ทั้งยังเป็นฆราวาสอยู่แล้วยังได้เทศนา พระอภิธรรมโปรดพระนางสิริมหามายา พระพุทธมารดาที่แม้จะล่วงลับไปแล้ว ส่วนพระน้านางที่ทรงเลี้ยงดูพระองค์มา คือพระนางมหาปชาบดี ในภายหลังก็ได้มาบวชเป็นภิกษุณีองค์แรก และได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ จึงนับว่าได้ทรงตอบแทนพระคุณน้ำนมอันเป็นเลือดในอกที่ทรงเลี้ยงดูมาอย่างสมควร คือทำให้ได้รับโลกกุตตรสุขจากการบวชและปฏิบัติธรรมนั่นเอง พระพุทธองค์ทรงเป็นอภิชาตบุตร ทำให้ศากยวงศ์เป็น ที่รู้จักและยกย่องแม้จนบันนี้ สามเณรทั้งหลายล้วนได้ชื่อว่าเป็นเชื้อสายของพระพุทธเจ้า เป็นเหล่ากอของสมณะผู้สงบกาย วาจาใจ ถึงขอให้สามเณรพากันรักษาสมญานี้ไว้ และตั้งใจประพฤติตนให้มีคุณธรรม คุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ ก็เป็นอันได้ช่วย สืบอายุพระพุทธศาสนา ไดทดแทนพระคุณมารดาบิดา และได้ประโยชน์แก่ตนเองและสังคมบริบูรณ์พร้อม ที่เรามาบวชทำความดีกันทุกวันนี้ ก็ขอให้อุทิศพลีแก่คุณแม่คุณพ่อที่มีพระคุณต่อเราอย่างสูงสุด รวมทั้งอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ท่านเหน็ดเหนื่อยเพื่อเรา ขอให้พวกเรามีน้ำใจกตัญญูกตเวทีอย่างเช่นที่พระสารีบุตรท่านมีต่ออาจารย์และ มารดาของท่านถึงเวลานอน ท่านจะหันศรีษะไปทางอัสสชิ ผู้เป็นพระอาจารย์ทุกครั้ง และก่อนที่ท่านจะดับขันธ์ไปนั้น ก็ได้เทศน์โปรดโยมมารดาของท่านจนบรรลุธรรมก่อน แล้วท่านก็ดับขันธปรินิพพานในห้องที่ท่าน ถือกำเนิดเกิดมาจากมารดานั้นเอง หากสามเณรทั้งหลายนำปฏิปทาจริยาเหล่านี้ไปประพฤติกระทำ ก็จะนำความสุขสวัสดิและความก้าวหน้าในธรรมให้เกิดขึ้นอยู่เนืองนิตย์ ไม่สูญเสียชีวิตเปล่าในเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนาตลอดจนมีมารดาที่มีคุณธรรม สัมมาทิฐิ ที่อุดหนุนส่งเสริมให้เราได้รับสิ่งที่ดีที่สุด คือการบวชฝึกหัดขัดเกลาตัวเองดังนี้
No comments:
Post a Comment