Monday

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ประชุมธรรม 2 วัน ณ ไท่จง กรุงเทพฯ วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2552

ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 2 วัน ณ ไท่จง กรุงเทพฯ
วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2552
สาธุชนกราบขอประทานพระโอวาทชี้แนะ
จากวันแรกก้าวเข้าสู่ธรรมสถาน อาจารย์ได้รับประกันหนี้เวรให้
หวังศิษย์รักศึกษาธรรมมิเหนื่อยหน่าย ปณิธานสิบข้อได้เจริญจริง
หากมิตั้งในปณิธานนั้น จะได้ขึ้นบันไดสวรรค์ยากยิ่ง
สู่ประตูพุทธะได้สัจจาจริง เกิดปาฏิหาริย์ญาณสงบนิ่งในตน เราคือ
สงฆ์จี้กงวิปลาส รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา ลงสู่โลกา น้อมกายเคียมคัล
องค์มารดาแล้ว ถามศิษย์รักทุกคนสุขสบายดีไหม
น้อมจิตสงบตั้งใจฟัง
ฮา ฮา
ศิษย์รักเอ๋ย…
เจ้าทั้งหลายสับสนกันหรือเปล่า อาจารย์ยืนอยู่ข้างกายศิษย์ ขณะที่พระโพธิสัตว์กวนอินมาผูกสัมพันธ์ เจ้ายังต้อนรับแขกของอาจารย์อย่างขายหน้า ใช่หรือไม่ จะลงโทษอย่างไรดี เกิดเหตุการณ์อย่างนี้
เจ้าได้ข้อคิดถึงหลักธรรมไหม…
เจ้าได้ข้อคิดถึงกฎพุทธระเบียบไหม…
เจ้าได้ข้อคิดถึงการมีสติมีสมาธิไหม…
เจ้าได้ข้อคิดทบทวนถึงการบำเพ็ญธรรมพัฒนาไหม…
อาจารย์ตักเตือน เพราะเจ้าคือพุทธบุตรคนเดิม เพราะเจ้าคือตัวแทนแห่งอาจารย์ จากนี้ไปการบำเพ็ญธรรม บำเพ็ญจิต ขอให้ความสำคัญมากกว่านี้ แม้บำเพ็ญอยู่ท่ามกลางโลก ผู้คน วัตถุ สิ่งของ เจ้าจะต้องมีการสำรวจ ระมัดระวังกาย วาจา ใจตน อย่ากล่าวคำเพ้อเจ้อ หรือกล่าวคำที่กล่าวร้าย เพราะหากกล่าว จะติดเป็นนิสัยเคยชิน อุปนิสัยเคยชินของสัตว์โลกยากยิ่งนักจักปรับแก้ เพราะว่า…
มิยินดีที่จะปรับปรุง
มิยินยอมเพราะว่าตนถูกเสมอ
มิยินดีเพราะผู้อื่นนั้นผิดเสมอ
หากความนึกคิดเกิดขึ้นอย่างนี้จะทำอย่างไร ตรึกตรองดู ศิษย์ตรึกตรอง ความเกียจคร้านมากกว่าความขยันอดทน หากจะบำเพ็ญธรรมต้องมิเกียจคร้าน ต้องมีความอดทนพากเพียร มีความพากเพียรมุ่งมั่นตนไปข้างหน้า เมื่อเดินไปก้าวหน้าแล้ว จะต้องมั่นคง คำว่ามั่นคงคือ การไม่เปลี่ยนแปลงจิตศรัทธาเชื่อมั่นนี้ ดังนั้น หวังศิษย์ประชุมธรรมสองวันนี้ จะมั่นคงในศรัทธาแรกเริ่ม ดีไหม
น้อมจิตสงบแล้วนั่งลง
ศิษย์รักเอ๋ย…
ในชีวิตเจ้าทุกคน อาจารย์รู้ว่าทุกคนนั้นมีความจำเป็นที่แตกต่าง แต่ขอให้เสียสละเวลามาศึกษาธรรม เรียนรู้ความละเอียดแห่งพงศาธรรมและดำรงอยู่อย่างมั่นคง ธรรมะนั้นสดับฟังต่างเข้าใจดี เข้าใจเหตุผล เข้าใจต้นปลาย ความเข้าใจนี้ต้องอาศัยการเปิดใจอันบริสุทธิ์ มิเสแสร้งแฝงจิตอกุศล ขวางกั้นในความรู้ ความสามารถ พุทธะกล่าวว่า…
“ยิ่งอ่อนน้อมยิ่งก้าวหน้า ยิ่งอหังการยิ่งล้าหลัง”
เจ้าจะบำเพ็ญให้จิตใจตนเยี่ยงพุทธะ ต้องอ้อนน้อมถ่อมตน หมั่นย้อนมองถามตนเสมอ หากกระทำได้อย่างมิขัดฝืนจิตใจทั้งภายในและภายนอก จะปรากฏใบหน้าพุทธะ จิตใจโพธิสัตว์
เข้าใจไหม
ศิษย์รักเอ๋ย…
ก่อนอาจารย์จะอำลา บุคลากรทุกคนจับมือประสานมือ มองดูใบหน้าซึ่งกันและกัน มองหยั่งถึงจิตใจซึ่งกันและกัน มือที่ประสานมือกันอยู่นั้นกล่าวคำว่า “เราจะไม่ทิ้งกัน เราจะไม่ทิ้งกัน” เมื่อกล่าวแล้ว เราจะต้องจดจำไว้ มองมาที่โต๊ะบูชาพระ มองตะเกียงทั้งสามดวง สายทองจับต้องมิได้ พระโองการฟ้าจับต้องมิได้ ธรรมะจับต้องมิได้ ศิษย์จะแสดงออกอย่างไรดี
เตี่ยนฉวนซือ…
แสดงออกถึงพระโองการฟ้าอย่างไรดี
ทบทวนตรึกคิด
เจี่ยงซือ…
แสดงออกถึงธรรมะอย่างไรดี
ทบทวนตรึกคิด
บุคลากร…
แสดงออกถึงสายทองอย่างไรดี
ทบทวนตรึกคิด
เข้าใจไหม
ในทุกมุมมอง…มีความคิดเห็น
ในทุกความเห็น…มีความสอดคล้องเป็นหลักธรรม
ในทุกปัญหา…มีปมให้แก้
ในทุกคน…มีความยินดี
ในทุกความยินดี…มิเห็นแก่ตัว
ก้าวแรกที่เดินสู่ประตูธรรม จากนั้นศิษย์เดินก้าวที่สองสาม จนถึงวันนี้ ผ่านการทดสอบมากมาย ฝึกฝนจิตใจให้อุเบกขามากเท่าใด นี้คือการยินดียกระดับจิตใจตน
ส่งเสริมคนถูกหลักธรรม…จะไม่ผิดบาป
ส่งเสริมคนถูกใจตน…จะผิดบาป
ดังนั้นพลังธรรมะอันเที่ยงตรงของเจ้านั้นหายไปไหน มีอยู่ที่จิตใจหรือเปล่า การมีโอกาสได้พบหนึ่งชี้จุดจากพระวิสุทธิอาจารย์ เจ้ายังมีสิ่งแปลกปลอมก่อกวนจิตใจมิเว้นวายหรือ ธรรมะที่รู้ ไตรรัตน์ที่ได้รับ มินำพาให้พลังธรรมกลับคืนสู่จุดกลางสถิตญาณเดิมหรืออย่างไร สิ่งที่อาจารย์กล่าวมานี้เพื่อให้ศิษย์ได้คิดกลับ ก่อนที่การทดสอบจะเกิดขึ้นต่อเจ้าเอง ใช้เวลาศึกษาธรรมะ คัมภีร์ ให้มากมาก ใช้เวลาฉุดช่วยเวไนย เรียนรู้จิตเมตตาธรรม ใช้เวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ เรียนรู้คำว่าอุเบกขา มุทิตา
เข้าใจไหม
กราบลา
ฮา ฮา ถอย

No comments:

Post a Comment