พระโอวาทพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ( พระโอวาทแปล )
จงถนอมรักษามหาธรรมที่ได้พบเจอยาก จงถนอมรักษาวิสุทธิอาจารย์ได้ประสบยาก จงถนอมรักษาที่มีอริยกิจให้ได้ปฏิบัติช่วยเหลือ จงถนอมรักษาที่มีบุญกุศลให้ได้สั่งสม จงถนอมปณิธานที่ได้แบกรับ ที่กล่าวมา 5 ข้อข้างต้น ขอให้เมธีจงไปแสดงออก ช่วยเหลือผู้อื่นก็เหมือนช่วยเหลือตนเอง ในยมโลกนั้นโอกาสหายากแล้ว เมธีทั้งหลาย จงอย่าพลาดโอกาสเยี่ยงนี้เป็นอันขาด เพราะหากพลาดโอกาสในชาตินี้ ก็คงจะเหมือนเหล่าวิญญาณทั้งหลาย จะต้องรออีก 30 ปี 60 ปี 100 ปี หรืออาจจะถึง 200 ปี จึงจะมีโอกาสรับวิถีธรรม
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) เพราะว่ายึดติดในโลกที่มองเห็นนี้ว่าเป็นของจริงจึงน่าสงสาร เพราะว่ายึดติดแดนโลกมายาอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากไปจึงน่าสงสาร เพราะว่ายึดติดผูกพัน ญาติมิตรเพื่อนฝูง ความรักชื่อเสียงลาภยศจึงน่าสงสาร เพราะว่ายึดติดสังขารกายปลอม ไม่อยากจากไปจึงน่าสงสาร เพราะว่าไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ผลตอบสนอง ทำผิดศีลธรรมจึงน่าสงสาร เพราะว่าตายแล้วแต่ยังไม่ยินยอมตาย จึงน่าสงสาร เพราะว่าหลังจากตายแล้ว ยังต้องเวียนว่ายในชาติกำเนิดสี่ ภูมิวิถีหกจึงน่าสงสาร เพราะว่าสูญเสียกายมนุษย์ไปแล้ว ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้จึงน่าสงสาร เพราะว่าพลาดวาระธรรมะปกแผ่ พลาดโอกาสประสบพระวิสุทธิอาจารย์ จึงน่าสงสาร
พระโอวาทพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ( พระโอวาทแปล )
เมธีทุกท่านควรทราบ…. โลกโลกีย์แห่งนี้มิใช่ที่อยู่อาศัยถาวรของเรา สรรพสิ่งในโลกล้วนเป็นมายาอนิจจัง ญาติมิตรพี่น้อง ชื่อเสียงลาภยศ ความรักผูกพัน มิอาจอยู่ยาวนาน สิ่งเหล่านี้ ให้เราได้ยืมใช้ แต่มิใช่เป็นของเรา เมื่อถึงเวลาแล้วก็ต้องคืนกลับธรรมชาติฟ้าดิน เมื่อถึงเวลาแล้วก็ต้องคืนใช้กฎแห่งกรรมตามธรรมชาติ สิ่งนี้คือกฎอันเป็นที่แน่นอนแล้วแห่งฟ้าดิน เป็นใครก็ไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้ ใครก็ไม่สามารถต่อต้านได้
พระโอวาทหนึ่งในแปดเซียน หันเซียงจื่อ มีชีวิต 1 วัน อยู่อย่างมีคุณค่า ดีกว่ามีชีวิต 100 วัน แต่ไร้ค่า หากเรานั้นมีชีวิตเหลืออยู่ 1 วัน แต่ชีวิตเราใช้อย่างคุ้มค่า มีประสบการณ์ที่ดีงาม ชีวิตที่เหลือนำมาอบรมสั่งสอนลูกหลานตักเตือนเป็นแบบอย่างที่ ดี หากเรายังคิดที่จะแสวงหาทรัพย์สินเงินทอง ก็ยากที่จะปล่อยวาง ทรัพย์สินเงินทองเมื่อตายแล้วก็เหลือให้ลูกหลานได้แย่งชิง ฉะนั้น ควรเหลือแบบอย่างที่ดีงาม เหลือจรรยาเหลือธรรมที่ดีงามแล้ว ที่จะเป็นแบบอย่างแก่ลูกหลาน ธรรมะ ไม่ต้องพูด เพียงแสดงกิริยาที่ดีแล้ว นั้นคือธรรมะ ธรรมะ เพียงแค่มองก็เข้าถึงใจภายในแล้ว จะดูว่ามีธรรมะดูได้จากการที่แสดงออกมา พฤติกรรมที่แสดงออกมาล้วนมาจากภายใน คนดีมีใบหน้าที่งดงาม มีสง่าราศี มีความสว่างด้วยความดี จะเกิดแสงแห่งคุณธรรม ด้วยคุณธรรมนั้นแผ่ซ่านไปถึงคนรอบข้างให้เจริญรอยตามและปฏิบัติเป็นคน ดี
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) ศิษย์ทั้งหลายบำเพ็ญธรรมจะต้องมีความมั่นใจในตัวเองเสียก่อน ต่อพระพุทธะต้องมีความเชื่อมั่น ต่อชาวโลกต้องมีความศรัทธาจริงใจ สัจจะสิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถกระโดดข้ามความทุกข์ได้ เรามาเกิดกันครั้งนี้เพื่อมาทำภาระอันศักดิ์สิทธิ์ให้สำเร็จ มาเพื่อทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด มิใช่มาเพื่อเสพสุข รู้หรือเปล่า
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) ในขณะที่ศิษย์ไปฉุดช่วยนำพาคน บางครั้งต้องใช้เงินทองมากมาย ทุ่มเทเสียสละ แต่กลับต้องได้รับความไม่ยุติธรรม คำพูดที่ทำร้ายน้ำใจ ใส่ร้ายธรรมะ เพราะศิษย์ต้องผ่านอุปสรรคเหล่านี้ วันนี้จึงจะบังเกิดมรรคผล
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล )บัดนี้กาลเวลาคับขัน ควรให้ความมุ่งมั่นได้สำเร็จ ไม่มีเวลาให้ศิษย์กำกวม ไม่เอาจริงเอาจัง ไม่มีเวลาให้ศิษย์ใหลตามชาวโลกได้อีกแล้ว ศิษย์ทั้งหลายเคยคิดบ้างหรือเปล่า ว่าคำพูดของเรา ใคร ๆ จะเอาไปถ่ายทอดด้วยความชื่นชม ได้คิดบ้างหรือไม่ ว่ากายของศิษย์จะถูกฉาบด้วยทอง ชีวิตจิตญาณไม่ได้ตายลงไป ไปทำให้ดี ปฏิบัติให้ดี ให้ปณิธานทั้งหลายได้กลายเป็นความจริงที่สมบูรณ์
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) ขณะที่เจ้าได้เจอกับความยากลำบาก อย่านั่งลงไปแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ กลับต้องรีบลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาอย่างว่องไวและเกิดประโยชน์ อย่าทำให้เวลาต้องเสียไปเปล่า ๆ การทอดถอนใจมิก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ มีแต่เพิ่มความทุกข์
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) การเสียสละของเรามิได้เสียเปล่า และการเกิดของเราในครั้งนี้ก็ไม่ได้เกิดมาเปล่าๆ อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไป แม้นว่าชีวิตของเราเพียงคนเดียวแต่รู้หรือไม่ว่าชีวิตของเราได้ผูกพันแน่น แฟ้นกับคนอื่นมากมาย มองเห็นน้ำหนักของตนเอง อย่าละล้าละลัง อย่าเอาตนเองมาเป็นอุปสรรคให้กับตนเอง ต้องยึดมั่นเป้าหมายที่ถูกต้อง
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) ศิษย์เอ๋ย พระอาจารย์หวังว่า ศิษย์ทั้งหลายจะสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเอง หวังว่าศิษย์เมื่ออยู่ในโลกของปุถุชน ศิษย์จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนทั้งหลาย บำเพ็ญธรรมบำเพ็ญใจ ทำงานธรรมก็ทำอย่างทุ่มเทใจ จะไม่เปรียบเทียบเก่งแย่งชิงดี เอาชนะเหนือกว่าใคร ๆ
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) ศิษย์เอ๋ย ทุกคนล้วนเป็นพันเนตรพันกรของพระโพธิสัตว์กวนอิน ทุกคนล้วนเป็นจิตใจของพระพุทธะจี้กง จิตใจของเรา คือ จี้กง จี้กง คือ อนุเคราะห์ส่วนรวม ไม่ใช่อนุเคราะห์ส่วนตนเป็นเพราะว่า จี้กง อนุเคราะห์ส่วนรวม จึงเห็นเวไนยอยู่อันดับหนึ่ง ตนเองอยู่อันดับหลังสุดนำความภักดี กตัญญู เมตตา มโนธรรม อยู่อันดับหนึ่ง นำอัตตาตัวตน ความเห็นแก่ตัวอยู่หลังสุดนี้ก็คือ พุทธะเดินดินบนแดนโลกนี้ พุทธะเดินดินเป็นพุทธะขณะมีชีวิตอยู่ขณะมีชีวิตอยู่ ก็มีจิตแห่งโพธิสัตว์ พูดวาจาแห่งโพธิสัตว์ ปฏิบัติกิจแห่งพระโพธิสัตว์ เมื่อจากไป ผู้คนจึงได้ขนานนามว่า พระโพธิสัตว์
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) ความสุขในชีวิตมนุษย์มีมากมาย แต่ความสุขที่ไม่สิ้นสุดนั้นมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ “การเสียสละ” ตนเอง เพื่อคนทั้งหลาย และก็มีสิ่งนี้เท่านั้นเองที่เราจะได้รับความสุขอันไม่มีที่สิ้นสุด ก็เหมือนกับพระอาจารย์ ในครั้งก่อนสวมจีวรขาด ๆ รองเท้าขาด ๆ เก้าอี้ที่นั่งก็คือก้อนหิน ที่นอนก็คือใต้ต้นไม้ แต่ความสุขในท่ามกลางนั้น เป็นความสง่าอย่างล้ำลึก เป็นความสมถะ จิตหนึ่งใจเดียวที่เอาเวไนยเป็นเป้าหมายในการทำงาน ตั้งมั่นอยู่กับฟ้าดิน
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง ( พระโอวาทแปล ) หากศิษย์ทำงานแทนเบื้องบน สิ่งที่ศิษย์จะได้รับในวันข้างหน้าจะได้เกินกว่าที่เราคาดหมาย ทุก ๆ คนล้วนไม่ธรรมดา อย่าดูถูกตนเอง ทุกคนล้วนมาตามปณิธาน ก็จะต้องเจริญปณิธานและบรรลุกลับไป พุทธะอริยะเจ้ามากมายกำลังรอการกลับสู่อริยะฐานะเดิมของเราอยู่
No comments:
Post a Comment