Thursday

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง จากชั้นเจ้าตำหนักพระ และพุทธบริกร

พุทธสถานเฉิงเต๋อ เกาะสมุย    21  สิงหาคม 2537
1. อย่าได้เปลี่ยนแปลงความคิดโน้มนำจิตของตนเอง เพราะหากเปลี่ยนแปลง เหตุการณ์ต่างๆ ก็จะเปลี่ยนแปลงเข้ามาในชีวิตของเราด้วย
2. การบำเพ็ญธรรม ต้องหาความก้าวหน้าให้กับตนเองขึ้นไปเรื่อยๆ อย่าได้ถดถอยหรือย่ำอยู่กับที่
3. ระมัดระวังจิตของตน อย่าได้ให้คิดในสิ่งที่ผิดเป็นอันขาด เพราะเมื่อไรจิตของเราไหว สิ่งเลวร้ายก็จะเข้ามาครอบงำในจิตของเราทันที
4. หมั่นคิดถึงแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่าได้ไปคิดถึงผี เมื่อเราคิดถึงสิ่งใดสิ่งนั้นก็จะมาทันที แท้ที่จริงผีก็มาจากคน หากเราทำดีก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากทำชั่วก็ตกลงไปเป็นผี
5. ธรรมะที่แท้จริง ย่อมมีการทดสอบ ทั้งนี้เพื่อทดสอบความมุ่งมั่นของเรา
6. ขอให้แก้ไขอุปนิสัยที่ไม่ดีของตนเอง หมั่นสำนึกบาป สำนึกความผิดอยู่เสมอ
7.   บำเพ็ญ ปฏิบัติงานธรรม ด้วยความศรัทธา ด้วยความจริงใจ อย่าได้กล่าวโทษสิ่งใดทั้งสิ้น
8.   หากมีอะไรที่กลัดกลุ้มใจไม่สามารถจะระบายกับใครได้ ขอให้คุกเข่าที่โต๊ะพระ บอกกับพระอาจารย์
9.  เวลานี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการคัดเลือก และการร่อน กลั่นกรอง ดังนั้นต้องประคับประคองจิตให้บำเพ็ญไปโดยตลอดรอดฝั่ง
10.  พระโอวาทของสิ่งศักดิสิทธิ์ ขอให้หมั่นนำมาทบทวน อย่าได้ลืม
11. เราทุกคนมีภาระหน้าที่จะต้องไปฉุดช่วยเวไนย ลองพิจารณาตนเองว่าได้รับผิดชอบต่อหน้าที่เต็มที่แล้วหรือยัง
12.  หากมีใจที่จะบำเพ็ญ ปฏิบัติ เบื้องบนก็คงไม่ละทิ้ง ไม่นิ่งดูดายพวกเราแน่นอน
13. พบกับเหตุการณ์ต่างๆก็มากมาย ก็หวังว่าจะได้รู้จักปล่อยวาง อย่ายึดมั่นมากเกินไป จะได้แบกรับภาระใหญ่ได้
14.  ควรรู้จักถนอมบุญสัมพันธ์ที่มีโอกาสอยู่บำเพ็ญด้วยกัน อย่าได้ปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไป
15.  ไม่ว่าจะเจอกับสิ่งไม่ราบรื่น ก็ขอให้มีจิตเข้มแข็งมั่งคง กล้าเผชิญกับอุปสรรคทุกสิ่งที่ขวางหน้า
16.  ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ เหมือนพ่อกับลูก พระอาจารย์ก็เป็นห่วงเป็นใย ต้องการให้ลูกศิษย์บำเพ็ญธรรมด้วยความสุขกายสบายใจ
17.  การบำเพ็ญ ปฏิบัติงานธรรม จะต้องมีปณิธานความมุ่งมั่นของตนเอง
18.  ชีวิตจริงของคนเรา มีพบก็ต้องมีพราก ก็ขอให้ศิษย์ได้เข้าใจในสัจธรรมของชีวิต
19.  ขอให้ทุกคนประสานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ช่วยเหลือ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
20. ความทุกข์ที่ประสบอยู่ ก็เหมือนเมฆดำ ที่สักวันหนึ่งก็ต้องมีวันสลายหายไป ขอให้สงบจิตที่ฟุ้งซ่านของตน
21. เวลานี้ศัตรูของเรา ก็คือตัวเรา เพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ก็คือตัวเราเช่นกัน ดังนั้นต้องรู้จักให้กำลังใจตนเอง ไม่มีใครจะช่วยจิตของเราได้ นอกจากตัวเราเอง อย่าได้หวังให้ใครมาปลอบ จะต้องคิดเสมอว่า ไม่มีใครที่จะช่วยเราได้ นอกจากตัวเราเอง
22. หากมีใครกล่าวโทษเรา หรือไม่เข้าใจตัวเรา ก็เป็นเรื่องของเรา อย่าได้ใส่ใจ ที่สำคัญเราอย่าได้ทำผิดต่อมโนธรรมสำนึกของตนเองก็แล้วกัน
23. ตั้งใจสร้างบุญกุศล อย่าได้ปล่อยตัวเหลวไหล มิเช่นนั้นแล้ว คลื่นลูกหลังจะตามมาทัน เราก็จะเกิดความละอายใจ ดังนั้นต้องกระตือรือร้นด้วยตนเอง
24. อย่าคิดว่าพระอาจารย์มาล้อเล่นกับเรา พระโอวาททุกคำของพระอาจารย์ขอให้นำไปปฏิบัติ มิฉะนั้นแล้วพระอาจารย์ก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน
25. ไม่ว่าจะเป็นเตี่ยนฉวนซือ เจี่ยงซือ ถันจู่ หรือพุทธบริกร จะต้องรักษาพุทธระเบียบอย่างเคร่งครัด เพราะเมื่อถึงเวลากลับคืนขึ้นไป สิ่งที่เราจะต้องถูกทดสอบเป็นอันดับแรกคือพุทธระเบียบ
26. การปฏิบัติธรรมไม่ใช่แสดงให้คนภายนอกเห็น ที่สำคัญจิตใจเราต้องปฏิบัติ ทำงานธรรมะอย่างจริงจัง
27. ถันจู่ ได้ทำหน้าที่ของตนดีแล้วหรือยัง อย่าลืมว่า ถันจู่จะต้องเป็นผู้นำเรือธรรมของตนที่บรรทุกเวไนย    มากมายให้ไปถึงฝั่งพระนิพพานให้ได้
28. ไม่ใช่ว่าจะนำคนมารับธรรมะแล้ว ก็ถือว่าหมดหน้าที่ของตน แท้ที่จริงส่งเสริมให้เขาได้เข้าใจธรรมะ และให้เขาได้บำเพ็ญ ปฏิบัติจนบรรลุธรรม
29. เมื่ออาณาจักรธรรมเก่าแก่ขึ้นทุกวัน ตัวเราเองอย่าได้ปล่อยตัวเองให้เก่าอยู่อย่างนั้น ต้องปรับปรุงตนเองให้ดี    ขึ้นทุกๆ วัน
30.  ยิ่งบำเพ็ญธรรมนานๆ ก็ขอให้ยิ่งอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักเคารพผู้อาวุโส รัก เอาใจใส่ผู้น้อยด้วยความจริงใจ
31.  หากมีพระโองการมาก็อย่าปฏิเสธ และหากไม่มีโองการมา ก็อย่าได้ตัดสินใจทำอะไรไปโดยพลการ
32.  ควรเจริญรอยตามพระอาทิตย์ที่ฉายแสงให้ทั่วหล้าโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนและโดยไม่แบ่งแยก ให้ความยุติธรรมกับทุกสรรพสิ่งเท่าเทียมกัน
33.  ขอให้ประคับประคองความศรัทธาที่เรามีต่อธรรมะครั้งแรกให้อยู่กับเราตลอดไป
34.  แม้ผู้แนะนำ ผู้รับรองเราไม่ดี เราก็อย่าได้ไปดูถูก จะต้องยื่นมือไปช่วยเหลือเขา ประคับประคองเขาให้กลับดีขึ้นมา
35.  การบำเพ็ญธรรมนั้น จะต้องรู้จักระลึกถึงผู้มีพระคุณ และรู้จักตอบแทนพระคุณ
36.  พยายามเห็นทุกคนเหมือนพ่อแม่ เหมือนพี่น้องของเราจริงๆ
37.  ผู้ที่ด่าว่าเรา ก็ถือเป็นการชำระหนี้กรรม จะต้องขอบคุณเขา
38.  อย่าได้ติดอยู่กับคำพูดหวานๆ ควรรู้ว่าคำพูดที่ชี้แนะไม่น่าฟัง แต่จะมีประโยชน์ต่อการบำเพ็ญของเรา
39.  เมื่อความขมผ่านไป ความหวานชื่นก็จะตามมา
40.  การบรรยายธรรม จะต้องเข้าใจให้แจ่มแจ้ง
41.  พยายามให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าให้ความสำคัญกับตัวเอง
42.  อย่าพยายามหาความสุขให้กับตนเอง ควรหาทางช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์
43.  พุทธสถานก็มีพุทธระเบียบ ทุกคนต้องเคารพพุทธระเบียบ
44.  บำเพ็ญธรรมะ จะต้องอดทนต่อความยากลำบากได้ โดยไม่กล่าวโทษใคร     
45.  ขณะทำงานธรรมะ หรืองานทางโลกก็ดี จะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ ทำให้ดีที่สุด
46.  การลงทะเบียนต้องระมัดระวัง อย่าหละหลวม
47.  การดูแลญาติธรรมจะต้องตั้งใจ และทำออกมาให้ดี
48.  การส่งเสริมผู้อื่น ต้องใช้ความอดทน ให้กำลังใจ และส่งเสริมไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเขาก็จะซาบซึ้งและมีกำลังใจ ทำได้ดีขึ้นเอง
49.  การส่งเสริมญาติธรรมนั้นสำคัญ ดังนั้น หลังจากได้นำพาให้เข้าได้รับธรรมะแล้ว จะต้องไปส่งเสริมการไปส่งเสริมก็ไม่ใช่เพียงครั้งสองครั้ง พอเขาไม่มา เราก็ไม่อยากไปเสียแล้ว เราควรถ่อมตนไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ โดยใช้ความจริงใจ อีกหน่อยความทุ่มเทของเรา ก็จะทำให้เขาซาบซึ้งใจ และออกบำเพ็ญ ดังนั้นการส่งเสริมจึงสำคัญยิ่งกว่าไปฉุดช่วย แต่ก็ไม่ใช่ไม่ฉุดช่วยเลย ควรทำไปพร้อมกัน
50.  วันนี้พระอาจารย์พยายามหาความผิดของเรา ก็ขอให้พวกเราตื่นตัว ย้อนมองตัวเอง สำนึกผิดในตนเอง และกล้ายอมรับผิด รีบแก้ไข เบื้องบนก็ไม่ได้กล่าวโทษอะไร
51.  พระอาจารย์รักลูกศิษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน การที่พระอาจารย์ว่ากล่าวพวกเรา จิตใจของพระอาจารย์ก็ปวดร้าวเช่นกัน
52.  ความรักระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ก็เหมือนพ่อกับลูก เวลาเราดีใจ พระอาจารย์ก็ดีใจกับเราด้วยเวลาเศร้าใจพระอาจารย์ก็เศร้าใจกับเราด้วย
53.  พระอาจารย์ก็ไม่ยากจะเข้มงวดอะไรกับพวกเรา แต่ก็ทนดูไม่ได้ที่จะเห็นลูกศิษย์ตกต่ำลงไป รู้ไหมว่าเวลาที่จิตใจเราถดถอยนั้น พระอาจารย์ร้อนรนเพียงใด กลัวว่าศิษย์จะใช้อารมณ์โทสะของตนเองออกมาบำเพ็ญกลัวลูกศิษย์จะมีจิตกล่าว โทษฟ้าดิน กล่าวโทษสิ่งต่างๆ
54.  ช่วงเวลานี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นกับปณิธานของลูกศิษย์เอง หากเจออุปสรรคก็ขอให้ฝ่าไปให้ได้ เพราะหากฟันฝ่าไปไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสร้างสะสมมาก็สลายไปหมด
ขณะนั้น หนันผิงเสี่ยวเซียนถง ได้เมตตาแสดงปริศนาธรรม โดยวางพานผลไม้ซ้อนๆ กันหลายๆ ใบ แล้วดึงออกใบหนึ่ง ประกฎว่าทุกใบล้มตกลงมาหมด ความหมายก็คือ การที่เราสร้างบุญกุศล ก็เหมือนกับการเรียงจานผลไม้ เราก็ค่อยๆ เรียงสูงขึ้นเรื่อยๆ  แต่เราบำเพ็ญไปได้ครึ่งหนึ่ง เราเจออุปสรรค แล้วเราท้อ เราเหนื่อยหน่าย เราอยากจะถอย พอจิตเราถอย เราก็ไม่ได้บำเพ็ญออย่างจริงจัง ในที่สุดจิตใจเราก็ค่อยๆ ถดถอยไป ไม่บำเพ็ญ ไม่ปฏิบัติ บุญกุศลก็ไม่มี หากเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เฉพาะเราตกเพียงคนเดียว บรรพบุรุษของเราที่รอบุญกุศลจากเราอยู่ ก็พลอยตกไปด้วย ก็เหมือนกับจานผลไม้ทั้งหมดที่ตกหล่นล้มลงมาหมดนั้นแหละ

55.  เราต้องรู้ซึ้งถึงความทุ่มเท ความลำบากใจของพระแม่องค์ธรรม และของพระอาจารย์
56.  คนที่บรรยายธรรม ก็ขอให้ก้าวหน้าในตนเอง คนที่ช่วยเหลืองานธรรม ก็ขอให้มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติ
57.  ทุกคนล้วนมีใจที่อยากจะช่วยอาณาจักรธรรมรุ่งเรือง แต่ถ้ามัวแต่คิดไม่ไปลงมือทำ อาณาจักรธรรมจะเจริญได้อย่างไร ทุกคนจึงควรใช้ความสามารถของตนเองแสดงออก ปฏิบัติออกมา
58.  การบรรยายธรรม ก็ควรดูว่าผู้ฟังเป็นคนระดับไหน เป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ จะต้องรู้จักประยุกต์ ให้ผู้ฟังได้เข้าใจในธรรมะ
59.  เราบรรยายธรรมะ ตัวเราเองก็ต้องบำเพ็ญให้ดีๆ มิใช่บรรยายให้จบๆไปเท่านั้นเอง
60. เมื่อเจอปัญหาอะไรก็ตามจะต้องพยายามหาหนทางแก้ปัญหา ไม่ใช้มัวแต่พูดว่าไมรู้จะแก้ปัญหาอย่างไร
61.  เบื้องบนนั้นมีทิวทัศน์สวยงาม มีองค์กุมารหยอกล้อเล่นกันสนุกสนาน ใครพบเจอองค์กุมารต่างยิ้มแย้มแจ่มใส ดังนั้นแม้พวกเราจะอยู่บนโลกโลกีย์ ก็ขอให้เหมือนกับเราอยู่บนสวรรค์ (มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส)
62.  พวกเราต้องยึดสายทองของตนเองให้มั่นคงแล้วเดินตามสายทองเส้นนี้ไป
63.  พระอาจารย์ก็ได้ให้พระโอวาทแก่พวกเรามากมาย ก็หวังว่าลูกศิษย์จะได้เข้าใจ และสัมผัสได้ถึงจิตใจของตนเอง
64.  สิ่งไหนที่ทำได้ ให้รีบทำให้เต็มที่ สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็อย่าได้เก็บเอามาคิด อย่าลืมว่าเรามาจากไหน เราก็ต้องกลับไปที่นั้น
65.  ตั้งปณิธานอะไรไว้ ก็ต้องชำระปณิธานของตนเองให้หมด แล้วกลับคืนไป
66.  ระหว่างนี้ ทุกคนก็อยู่ในระหว่างถูกคัดเลือก ซึ่งจะต้องมีการเคี่ยวกรำ ดังนั้นบนเส้นทางการบำเพ็ญอันยาวไกล ก็ให้ปณิธานของเรายิ่งยาวไกลกว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ก็ต้องรักษาปณิธานของตนให้มั่นคงอย่าได้เปลี่ยนแปลง
67.  วันนี้พระอาจารย์มาย้ำเตือนพวกเราถึงสองครั้ง ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลูกศิษย์จะจดจำพระโอวาทของพระอาจารย์ให้แม่นยำ ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงก็แล้วแต่ อย่าลืมว่า ณ เขาผิงซัน ยังมีพระอาจารย์จี้กงที่รอคอยให้พวกเรากลับคืนไป
68.  ขอให้พวกเราบำเพ็ญ ปฏิบัติให้ดีๆ ออกไปช่วยเหลือเวไนยทั้งหลาย
69.  ขอให้ทุกคนคิดถึงจิตใจของเบื้องบนเวลาเรามีไม่มากแล้ว พระอาจารย์ก็จำใจจากไป
70.  ขอให้จดจำคำพูดทุกคำของพระอาจารย์ให้ได้ เมื่อเจออุปสรรค ความไม่ราบรื่นอะไรก็ตาม ให้มีความมุ่งมั่นที่เข้มแข็ง ย่างเข้าสู่แสงธรรมที่สว่างไสว และขอให้ทุกคนรักษาถนอมร่างกาย อีกหน่อยเราอาจารย์ลูกศิษย์ก็คงได้มีโอกาสได้พบกันอีก

2 comments:

  1. 22. หากมีใครกล่าวโทษเรา หรือไม่เข้าใจตัวเรา ก็เป็นเรื่องของเรา อย่าได้ใส่ใจ ที่สำคัญเราอย่าได้ทำผิดต่อมโนธรรมสำนึกของตนเองก็แล้วกัน

    อาจผิดนะครับ น่าจะเป็นแบบข้างล่างมากกว่า
    22. หากมีใครกล่าวโทษเรา หรือไม่เข้าใจตัวเรา ก็เป็นเรื่องของเขา อย่าได้ใส่ใจ ที่สำคัญเราอย่าได้ทำผิดต่อมโนธรรมสำนึกของตนเองก็แล้วกัน

    ReplyDelete
  2. แต่ขอขอบคุณนะครับที่กรุณาลงมาให้ได้ศึกษาร่วมกัน

    ReplyDelete