วิถึจิตแห่งศาสนาปราชญ์ จารึกจิตพระอริยเจ้าอันประเสริฐไว้ว่า

• ชีวประวัติกษัตริย์ ซุ่น ช่วงวัยเยาว์จารึกไว้ว่า แม้โดนแม่เลี้ยงและน้องต่างบิดาประทุษร้าย ด้วยวิธีวางเพลิง หลอกให้ลงบ่อน้ำแล้วถมด้วยดิน ซ่ำยังนำแผ่นหินปิดปากบ่อ แต่ด้วยธรรมคุ้มครองผู้มีคุณธรรม จึงรอดพ้นจากภยันตราย และเมื่อท่านได้พ้นจากภยันตรายเหล่านั้นแล้ว ด้วยจิตอันใสวิสุทธิ์ของพระองค์ ประดุจกระจกเงาใสที่มีวัตถุใดผ่านก็จะเห็นเงา แต่เมื่อวัตถุผ่านไปเงานั้นไม่ทิ้งร่องรอยด้วยสภาวะจิตแห่งพระอริยเจ้านั้น ท่านไม่เคยเก็บ ไม่มีซ่อนความอาฆาตมาดร้าย แต่ยังทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยนั่งเล่นพิณบนที่นอน เราทั้งหลายควรถือสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ ที่ตนพึงปฏิบัติ
• พราหมณ์สูตร ได้กล่าวถึงสมัยหนึ่ง ที่พระศักยะมุนีพุทธเจ้าเกิดเป็นพระดาบส นามว่าขันติวาทิ บำเพ็ญขันติปรมัตถ์บารมี และมีพระเจ้ากลาปุได้ทดสอบโดยสั่งเพชฌฆาต เฆี่ยนตี ตัดมือ ตัดขา ตัดหู ตัดจมูก แต่พระองค์ยังคงมีขันติและยังเมตตาว่า "เมื่อกาลใดที่พระองค์บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณก็จะไปโปรด พระเจ้ากลาปุ"
• พระเยซูคริสต์ สิ้นพระชนม์ โดยถูกตรึงบนไม้กางเขน เพื่อล้างบาปให้กับเวไนยสัตว์
• นี่เป็นการบ่งบอกสภาวะจิตอันประเสริฐ ของพระอริยเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ปุถุชนจะเข้าใจได้ ฉะนั้น การได้รับหนึ่งจุดชี้พระวิสุทธิอาจารย์ ประทานให้เป็นเส้นทาง พาเราไม่ต้องทนทุกข์เวียนว่ายในวัฏสงสารอีกต่อไป
• วันนี้ หากเราท่านทั้งหลาย บำเพ็ญจิตใจเช่นพระอริยเจ้า รู้แจ้งอนุตตรญาณ ที่หลงเวียนว่ายในปฏิจจสมุปบาท เช่นนี้ จะเรียกได้ว่า หลุดพ้นได้แท้จริง ดั่งคำกล่าวหนึ่ง
• "กษัตริย์ซุ่น เป็นใคร แล้วเราเป็นใคร หากท่านดำเนินรอยตาม ท่านก็ไม่ต่างจากกษัตริย์ซุ่น"
• กาย วาจา ใจ ของเวไนย มักเวียนว่ายไปตามภาวะแวดล้อม ถูกพันธนาการด้วยวัตถุ ถูกกำหนดด้วยกฎเกณฑ์ จึงมิอาจมองเห็นความอิสระแห่งตนได้ แต่ด้วยเราท่านทั้งหลายเคยบำเพ็ญสั่งสมธรรมบารมี จึงมีโอกาสได้รับรู้ ธรรมจักษุ ครรโภทร อันเป็นจิตอันวิเศษประณีตสู่วิมุตติ เป็นธาตุแท้แต่ไร้รูป สิ่งนี้คือขุมสมบัติที่เร้นลับอันล้ำค่า