Sunday

การรับวิถีอนุตตรธรรม

การที่ท่านได้รับวิถีอนุตตรธรรมที่ล้ำค่านั้น เพื่อให้ได้รับการโปรดจากฟ้าเบื้องบนเช่นนี้ก็เท่ากับท่านได้รับบุญกุศลมาก เพราะว่าท่านไม่เพียงแต่ช่วยจิตญาณของตนให้พ้นทุกข์...พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อีกทั้งยังช่วยให้กายเนื้อนี้พ้นจากเภทภัย และหากว่าได้ตัดสินใจลงมือปฏิบัติจริงก็จะสามารถสะสมกุศลจากการปฏิบัติเพื่อนำมาโปรดฉุดช่วยวิญญาณของบรรพชน 7 ชั้น ลูกหลาน 9 ชั้นได้อีกด้วย กล่าวคือ ในวันที่ท่านขอรับวิถีธรรม บรรพบุรุษเจ็ดชั้นลูกหลานเก้าชั้นที่รับทุกข์ทรมานอยู่ในนรกจะได้รับการโยกย้ายจากการทรมานในที่ลำบากมากๆมาอยู่ในที่เบาบางลงมาเป็นวิญญาณระดับสาม และได้รับดอกบัวสีขาวจากพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ไว้ที่ปกเสื้อคอยที่จะให้ลูกหลานเข้าร่วมการประชุมธรรมะชั้นฟื้นฟูจิตเดิมแท้ 2 หรือ 3 วันเมื่อใดวิญญาณของบรรพบุรุษเหล่านั้นก็มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมธรรมเพื่อสำนึกผิดและเมื่อผ่านการประชุมธรรมแล้ว ตัวเราได้ถวายปณิธานเพิ่มอีกสองข้อ ย้ายชื่อจากด่านตรีเทพพิทักษ์มหาราชไปอยู่ที่พุทธาลัยวิญญาณบรรพบุรุษเหล่านั้นได้เลื่อนเป็นวิญญาณชั้นสอง เมื่อเราออกฉุดช่วยนำพาเวไนยรับวิถีธรรม วิญญาณบรรพบุรุษได้เลื่อนเป็นวิญาญาณชั้นหนึ่งทันที เมื่อเราตั้งใจบำเพ็ญ มีคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถฉุดช่วยบรรพบุรุษให้หลุดพ้นจากนรกได้ และนี่คือลักษณะเด่นพิเศษของการโปรดสามโลกครั้งสุดท้ายปลายกัปนี้
อนุตตรธรรม เป็นธรรมะสูงส่ง ในอดีตกาลจะรับรู้ธรรมะนี้ได้ จะต้องละทิ้งชื่อเสียง เงินทอง ฐานะตำแหน่ง ไปอยู่ป่า บำเพ็ญด้วยความยากลำบาก ร้อยพันหมื่นคนจะมีสักคนรับรู้ธรรมะนี้ได้ กาลเวลาดำเนินมาถึงยุคสุดท้ายปลายกัป มหันตภัยต่างๆ ลงมาเพื่อทำลายล้างคนชั่ว แต่โลกนี้ก็ยังมีคนดีอยู่อีกมาก เบื้องบนพระแม่องค์ธรรม หรือพระผู้เป็นเจ้าจึงประทานธรรมะเข้าสู่ครัวเรือน เพื่อฉุดช่วยคนดีทั้งหลายให้ได้รับวิถีธรรม
... ธรรมะก็คือ "ธรรมชาติ" เป็นสัจธรรมของจักรวาลที่ดำรงอยู่ องค์ศาสดาทุกศาสนายังไม่อุบัติลงสู่โลกมนุษย์ ธรรมะนี้ก็ดำรงอยู่แล้ว เมื่อศาสดาทั้งห้า รับรู้ธรรมนี้แล้วจึงนำสัจธรรมนี้ไปเทศนาอบรมสั่งสอนผู้คนทั้งหลาย ให้คิดดีประพฤติชอบจึงเรียกเป็น "ศาสนา" ธรรมนี้จากแดนนิพพาน พระแม่องค์ธรรมหรือพระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดประทานลงสู่โลกครั้งแรกที่ประเทศจีน เมื่อประมาณห้าพันปีก่อน กษัตริย์ฝูซี เป็นผู้รับรู้ธรรมะเป็นองค์แรก แล้วก็ได้สืบทอดกันต่อๆมา มีพงศาธรรมของจีนจารึกเอาไว้ จากประเทศจีนไปสู่อินเดีย สามศาสนาก็เกิดขึ้น คือ พุทธ เต๋า และปราชญ์ จากอินเดีย พระโพธิธรรมเถระเจ้าองค์สุดท้าย (ตั้กม้อ) ก็นำธรรมะกลับสู่ประเทศจีนเมื่อรัชสมัยเหลียงอู่ตี้ (เนี๊ยบู๊ตี่) ธรรมะได้สืบทอดต่อมาจนถึงปี พ.ศ. 2473พระแม่องค์ธรรมหรือองค์พระเจ้า ก็ได้มีบัญชา หรือ พระโองการฟ้าประกาศิตสู่โลกให้พระบรรพจารย์กงฉัง และจื่อซี่ ทั้งสองพระองค์ รับหน้าที่โปรดฉุดช่วยทั้งสามโลกพร้อมกัน คือฉุดช่วยทั้งเทพพรหมบนเทวโลก ฉุดช่วยคนบนโลกมนุษย์คือสาธุชนคนดีทั้งหลาย และฉุดช่วยวิญญาณบรรพชนของเราในยมโลก ให้กลับคืนสู่แดนนิพพานบ้านเดิมของจิตญาณ ธรรมะนี้เรียกชื่อเต็มว่า "อนุตตรธรรม" อนุตตร แปลว่าดียิ่ง ยอดเยี่ยม วิเศษสูงสุด เป็นหนทางที่จะนำจิตญาณของคนเรากลับคืนสู่แดนนิพพานบ้านเดิม สิ้นสุดหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฎสงสารหกวิถี
นรกภูมิ : หลงเป็นเหตุสัตว์ที่มาเกิดในภูมินี้ประกอบด้วยอกุศลจิต เหตุมาจาก โลภ โกรธ หลง ทำบาปด้วยกาย ปาก และใจ ทางกาย 3 คือ ฆ่าคนฆ่าสัตว์ด้วยตั้งใจ ลักทรัพย์ เป็นชู้ทางปาก 4 คือ พูดโกหก พูดยุแหย่ ติเตียนนินทาพูดคำหยาบ พูดตลกเล่นอันมิควรพูดทางใจ 3 คือ ไม่ชอบว่าชอบและชอบว่าไม่ชอบ อาฆาตพยาบาท คิดปองร้ายเพื่อเอาทรัพย์สินผู้อื่น
เดรัจฉานภูมิ : ละเมิดศีลผิดคุณธรรมเป็นเหตุสัตว์ที่เกิดในภูมินี้ เป็นสัตว์ที่มีตีนและไม่มีตีน เวลาเดินเอาอกคว่ำลง ได้แก่ ครุฑ นาค สิงห์ ช้าง ม้า วัว ควาย เป็ด ไก่ นก แมลง ดำรงชีวิตด้วย กามสัญญา อาหารสัญญา มรณสัญญา มักไม่รู้จักบุญ รู้จักธรรม ไม่รู้จักค้าขาย ทำไร่ไถนา ล่ากินกันเอง
เปรตภูมิ : โลภเป็นเหตุผู้ที่ทำบาปหยาบช้าจะมาเกิดในภูมินี้ แล้วแต่บาปที่กระทำ เช่น ตัวงามดั่งทองแต่ปากเหม็นเต็มไปด้วยหนอน เนื่องเพราะเคยบวชรักษาศีล แต่ชอบยุยงให้หมู่สงฆ์ผิดใจกัน บางตัวงามดั่งท้าวมหาพรหม แต่ปากเป็นหมู อดหยากนักหนา เมื่อก่อนได้บวชรักษาศีลบริสุทธิ์ แต่ด่าว่าครูบาอาจารย์และพระสงฆ์ผู้มีศีล บางตัวผอมโซกินลูกตัวเองที่คลอดออกมา เพราะเคยรับทำแท้งให้ชาวบ้าน บางตัวสูงเท่าต้นตาล ผมหยาบตัวเหม็น อดหยากไม่มีข้าวน้ำกิน เพราะไม่เคยทำบุญให้ทาน แม้เห็นใครทำก็ห้าม
อสุรภูมิ : โทสะเป็นเหตุอสุรกายมี 2 จำพวก คือ กาลกัญชกาอสูรกาย ร่างกายผอมสูง 2,000 วา ไม่มีเลือด ไม่มีเนื้อ ดั่งไม้แห้ง ตาเล็กเท่าตะปู ปากเท่ารูเข็ม ตาและปากอยู่เหนือกระหม่อม เวลากินต้องหัวลง ตีนชี้ฟ้า ลำบากยากนักหนา ส่วนทิพยอสูรกาย ตัวสูง หน้าตาน่าเกลียด ท้องยาน ฝีปากใหญ่ หลังหัก จมูกเบี้ยว
มนุษยภูมิ : ประพฤติศีล 5 เป็นเหตุภูมิของมนุษย์เป็นภูมิระดับสูงกว่าอบายภูมิ เป็นชั้นแรกของสุคติภูมิ แต่ยังรวมอยู่ภูมิใหญ่คือ กามภูมิ สัตว์อันเกิดในมนุษยภูมินี้ แรกก่อกำเนิดในครรภ์เรียก กลละ (รูปเมื่อเริ่มในครรภ์) มีรูป 8
เทวภูมิ : กุศลกรรมเป็นเหตุบุคคลผู้มีใจบุญกุศล ปฏิบัติเป็นผู้อยู่ในความเพียบพร้อมไปด้วยกุศลกรรมบถ คือ กาย วาจา ใจ แต่เมื่อสิ้นบุญแล้วจักต้องเวียนมาเกิดอีก
ศาสดาทั้งห้าต่างอุบัติลงมาเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ในซีกโลกต่างๆ หลังจากที่ศาสดาทั้งหลายตรัสรู้อนุตตรภาวะในตนแล้วจึงออกสั่งสอนโปรดเวไนยสัตว์ คำสอนต่างๆ จึงถูกรวบรวมขึ้น เรียกว่า พระธรรมคัมภีร์ในศาสนานั้นๆ มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติและบำเพ็ญ เพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์ สะอาด มีคุณธรรม และบำเพ็ญเช่นนี้ข้ามภพข้ามชาติเรื่อยมา จวบจนถึงปัจจุบันนี้ เราจึงมีบุญกุศลที่สั่งสมมาแล้ว ส่งผลให้ได้มารับวิถีอนุตตรธรรม ซึ่งเปรียบเสมือนรากเหง้าของศาสนาต่างๆ ที่องค์ศาสดาทั้งหลายได้ตรัสรู้ เพราะฉะนั้นธรรมะจึงเป็นแก่นของศาสนาทั้งหลาย
อนุตตรธรรม จึงเป็นธรรมะหนึ่งเดียวไม่มีสอง หรือเรียกว่า "เอกธรรมมรรค"ที่ในอดีตพระอริยะเจ้าทั้งหลายได้รับรู้ หรือรู้แจ้งสำเร็จธรรมไป ดังเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์กวนอิม พระพุทธจี้กง พระกษิติครรภโพธิสัตว์ ฯลฯ เป็นต้น
การรับธรรมะ จะได้รับสิ่งวิเศษ 3 ประการ ซึ่งเป็นความลับสวรรค์มีดังนี้
1. จุดญาณทวาร คือ ประตูหนทางตรงที่จิตญาณออกจากร่าง คือ ศูนย์รวมปัญญา เป็นประตูพระนิพพานในตนเองพระอริยเจ้าทั้งหลาย ล้วนได้รับการชี้หนึ่งจุดนี้ทั้งสิ้น ดังเช่น พระมหากัสสปะ ก็ได้รับการถ่ายทอดจุดตรัสรู้จากพระพุทธองค์จากการชูดอกบัวให้เห็นตรงหน้าเป็นปริศนาธรรม
2. รหัสคถา เป็นสัจคาถาศักดิ์สิทธิ์ ถ่ายทอดจากปากสู่จิต จดจำไว้ในใจใช้สื่อถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยรักษากายสังขารให้รอดพ้นจากเคราะห์ร้ายภัยพิบัติต่างๆได้
3. ลัญจกร เป็นตราประทับศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธะเป็นเครื่องหมายที่จะพาให้พ้นจาก 81 มหันตภัย ในธรรมกาลยุคขาวสุดท้ายนี้ ใช้ร่วมกับสองสิ่งแรกเพื่อให้เกิดพุทธานุภาพที่ยิ่งใหญ่ และตราประทับนี้ยังซ่อนความนัยของการบำเพ็ญธรรมโดยบำเพ็ญทางจิตให้สะอาดบริสุทธิ์
การรับธรรมะดีอย่างไร
ผู้ได้รับการถ่ยทอดวิถีอนุตตรธรรม ล้วนมีรากฐานบุญบารมีที่สั่งสมมาแต่ในอดีตชาติ อย่างน้อยสามชาติ ประกอบกับชาตินี้เป็นคนดี มีอาชีพที่สุจริต จึงส่งผลให้ได้มีโอกาส เกิดกายเป็นมนุษย์ และก็ได้รับวิถีอนุตตรธรรม ด้วยอานิสงส์นี้เองจึงส่งผลให้เราได้คุณประโยชน์อีกมากมาย จากการที่ได้รับ และบำเพ็ญปฏิบัติวิถีอนุตตรธรรม ดังนี้
1. สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตให้ดีขึ้น ลดเคราะห์ร้ายภัยพิบัติ และลบล้างหนี้เวรกรรมได้
2. พ่อแม่พี่น้องรักใคร่ปรองดอง สังคมสงบสุข ประเทศชาติร่มเย็น
3. รู้จักตนเองอย่างชัดเจน สามารถฟื้นฟูจิตเดิมแท้ และเกิดปัญญาอันเป็นสิ่งล้ำค่าของมนุษย์
4. ได้รับการถอนชื่อจากบัญชียมโลกไปสถิตบนสวรรค์ ณ ด่านตรีเทพพิทักษ์มหาราช
5. สามารถฉุดช่วยบรรพบุรุษ 7 ชั้น และลูกหลาน 9 ชั้น พ้นจากนรกทั้ง 10 ขุมได้
6. ได้รับนิรโทษกรรม 70% จากพระแม่องค์ธรรม หรือองค์พระเจ้าและยังได้รับไตรรัตน์วิถีจิต อันเป็นสิ่งวิเศษสามารถคุ้มตัวคุ้มภัยได้
7. บำเพ็ญธรรมได้ในขณะครองเรือน ละกายสังขารไปแล้วจิตญาณสามารถกลับคืนสู่แดนนิพพานบ้านเดิม พ้นจากความทุกข์อันเกิดจากการเกิด แก่เจ็บ และตาย
คุณสมบัติของผู้ขอรับวิถีอนุตตรธรรม
1. ต้องมีผู้แนะนำ-รับรอง สองท่านนนี้จะคุกเข่าต่อหน้าพระแท่นฯ ผู้แนะนำจะต้องปฎิญาณต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ผู้ขอรับวิถีอนุตรธรรมที่เขาแนะนำมาเป็นคนดี มีอาชีพที่สุจริต ส่วนผู้รับรองก็จะต้องปฎิญาณว่า ผู้กราบขอรับวิถีอนุตตรธรรมนี้ จะได้รับธรรมะที่แท้จริง มีหลักธรรมจริง และมีพระโองการสวรรค์ที่แท้จริง หากเป็นลัทธิอุบาทว์ หรือหวังหลอดลวงเงินทองทั้งสองท่านที่แนะนำ-รับรอง ยินดีให้ฟ้าคนร่วมรับรู้ ซึ่งผู้แนะนำรับรองจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับวิถีอนุตตรธรรมแล้วเท่านั้น
2. ต้องมีเงินทำบุญจำนวนหนึ่ง เท่าไรก็ได้ และแต่จิตศรัธาของผู้รับธรรมะจำนวนเงินทำบุญจะเขียนลงในใบคำขอแล้วเผาถวายให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้เพื่อแสดงถึงจิตศรัทธาของผู้ขอรับธรรมะ การทำบุญลักษณะนี้เป็นการทำบุญครั้งสำคัญในชีวิต ส่วนตัวเงินก็จะนำมาสร้างพุทธสถาน หรือพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเพื่อเป็นธรรมทาน เป็นต้น บุญกุศลเหล่านี้จะเป็นหลักประกันแก่เจ้ากรรมนายเวร ว่าผู้ขอรับธรรมะมีเจตนาที่จะชดใช้หนี้กรรมให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเพราะฉะนั้นหลังจากรับธรรมะแล้วส่วนใหญ่จะอยู่เย็นป็นสุขพ้นจากเคราะห์ร้ายภัยพิบัติได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นเงินทำบุญนี้จึงมีความสำคัญต่อผู้รับธรรมะโดยตรงส่วนจะทำมากหรือน้อยแล้วแต่จิตศรัทธาของผู้รับธรรมะไม่มักฎเกณฑ์ ข้อบังคับ
3. จะต้องมีมหาปณิธาน 10 ข้อ ก็คือ เมื่อเข้าสู่พิถีการถ่ายทอดวิถีแห่งจิตจะมีช่วงหนึ่งให้ผู้รับธรรมะท่องตาม เรียกว่า เป็นมหาปณิธาน มี 10 ข้อ
ข้าพเจ้า ขอคุกเข่าด้วยศรัทธา ณ เบื้องพระแท่น แห่งพระอนุตตรธรรมเจ้า กราบขอประทานอนุตตรวิถีฟาอี ถ่ายทอดสัจธรรมจริง ข้าพเจ้าจะมั่นคงในศรัทธา จะสำนึกด้วยใจจริง (หญิง - จะบำเพ็ญด้วยใจจริง) หากเคลือบแฝงเสแสร้างถดถอยไม่ก้าวไป หลอกลวงลบล้างบรรพจารย์ ลบหลู่นักธรรมอาวุโส ไม่รักษาพุทธวินัย แพร่งพรายความลับสวรรค์ ปิดบังธรรมะไว้มิให้ปรากฏ ไม่ปฏิบัติธรรมตามควรแก่กำลัง (หญิง - ไม่บำเพ็ญธรรมโดยศรัทธา ข้าพเจ้ายินดี ให้ฟ้าคนร่วมรับรู้
นี่ไม่ใช่คำสาบาน แต่เป็นปณิธาน ปณิธานแปลว่า ความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ดี พระพุทธจี้กงได้เคยประทานพระโอวาทไว้ว่า "ศิษย์เอ๋ย เจ้าต้องรู้ไว้นะ วันแรกที่เจ้าก้าวสู่พุทธสถานอาจารย์ก็ต้องพูดจาตกลงกับเจ้ากรรมนายเวรของเจ้าไว้ก่อน จึงหวังว่าศิษย์เจ้าเมื่อเข้าใจในสัจธรรมแล้วจงสร้างบุญกุศลต่อไปให้ดี จะต้องรู้ว่าที่ก้าวเข้าสู่ประตูพุทธะมาได้ก็ด้วยอาศัยมหาปณิธาน10 ข้อนี้ หากเจ้าไม่ตั้งปณิธานแล้วเจ้าหวังจะได้หนึ่งนิ้วจุดเบิกญาณทวารจากพระวิสุทธิอาจารย์ ก็ยากยิ่งกว่าปีนบันไดสวรรค์เสียอีก" ถ้าหากแม้นเราไม่มีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะทำความดี พระวิสุทธิอาจารย์ก็มิอาจประทาน "จุดสถิตชีวิตสว่างดวงธรรมญาณ" แก่เราได้ และนี่ก็คือความหมายของการตั้งมหาปณิธาน
รับธรรมะแล้วต้องปฏิบัติอย่างไร
ธรรมะ หรือวิถีอนุตตรธรรม คือ หนทางที่จะนำจิตญาณกลับคืนสู่แดนนิพพาน หลังจากรับธรรมะแล้ว ถ้าหากท่านเกิดจิตศรัทธาต้องการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด หลุดพ้นจากความทุกข์ในวัฎสงสารนี้ พื่อกลับคืนสู่แดนนิพพาน ท่านจะต้องปฏิบัติสามข้อ ดังนี้
1. ศึกษาธรรมะ เพื่อที่ท่านจะได้รับรู้หลักเหตุผลที่แท้จริงของธรรมชาติ และการดำเนินชีวิตให้ถูกต้องกับหลักของธรรมชาติ ชีวิตจึงจัดำรงอยู่ได้ด้วยความสงบสุข ธรรมะจึงไม่ห่างจากการดำเนินชีวิตประจำวัน ผู้ศึกษาและเข้าใจธรรมะเท่านั้นจึงจะพบกับความสุขที่แท้จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
2. บำเพ็ญธรรม การบำเพ็ญก็คือ การชำระจิตให้ผ่องแผ้วสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจาก โลภะ โทสะ โมหะ และแก้ไขเปลี่ยนแปลงนิสัยความเคยชินที่ไม่ดี บำเพ็ญตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างจริงจังและถือศีลห้าให้ครบถ้วนบริสุทธิ์การบำเพ็ญก็เพื่อฟื้นคืนจิตเดิมแท้ที่มีเบญจธรรมครบสมบรูณ์อยู่แล้วดังนั้นการบำเพ็ญจึงเป็นการฉุดช่วยตนเองโดยแท้
3. ปฏิบัติธรรม คือการฉุดช่วยนำพาเวไนยสัตว์ทั้งหลายให้ได้รับวิถีธรรม และส่งเสริมให้ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม รวมไปถึงการสร้างบุญต่างๆ อันได้แก่
- ให้ทรัพย์เป็นทาน- ให้วิทยาธรรมเป็นทาน- ให้แรงกายเป็นทาน
การปฏิบัติธรรมจึงเป็นการสร้างบุญกุศล เพื่อลบล้างหนี้เวรกรรมต่างๆ ที่เราได้เคยก่อไว้ให้หมด (ลบล้างหนี้เวรกรรมได้เฉพาะผู้ที่รับธรรมะแล้วเท่านั้น เพราะเป็นโองการฟ้าประกาศิตจากองค์พระอนุตตรธรรมเจ้า 129,600 ปี มีครั้งเดียว)เพื่อสุดท้ายสามารถกลับคืนสู่แดนนิพพานได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวของท่านเอง รวมทั้งบรรพบุรุษ 7 ชั้นและลูกหลานอีก 9 ชั่วคน
เพราะฉะนั้นหลังจากรับธรรมะแล้ว เราจึงต้องมาศึกษาธรรมะให้เกิดความเข้าใจในหลักธรรมแล้วนำไปบำเพ็ญปฏิบัติในชีวิตประจำวัน แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง ว่าท่านปราถนาที่จะพ้นทุกข์จากวัฎสงสารนี้หรือไม่ ชะตาชีวิตของท่านท่านจึงต้องเป็นผู้กำหนดเอง ดังคำกล่าวของพระอริยเจ้าที่ว่า
"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ปลูกถั่วได้ถั่ว ปลูกแตงย่อมได้แตง" นี่คือหลักสัจธรรม ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นการมารับธรรมะจึงเป็นเพียงการมาเปิดประตูพระนิพพานเท่านั้น ส่วนท่านจะปฏิบัติบำเพ็ญเพื่อความสุขในชีวิต และสุดท้ายเพื่อให้ถึงซึ่งพระนิพพานหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวของท่านเอง เพราะฉะนั้นการมารับธรรมะแท้จริงแล้วจึงไม่มีข้อผูกมัดหรือข้อบังคับใดๆทั้งสิ้น หนทางชีวิตของท่านท่านจึงเป็นผู้เลือกเอง ถ้าท่านไม่เลือกที่จะขึ้นก็คือลงกฎของธรรมชาติมีเพียงสองทางเท่านั้น
การศึกษา บำเพ็ญ ปฏิบัติธรรม ในยุคขาวสุดท้ายนี้ง่ายดายเหลือเกิน ไม่ต้องละทิ้งครอบครัว ไม่ต้องละทิ้งการงาน ไม่ต้องละทิ้งทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง ลาภยศใดๆเลยยังคงดำรงชีวิตไปตามปกติเพียงแต่สละเวลาที่ว่างจากการทำงาน หรือวันหยุดมาศึกษาบำเพ็ญ ปฏิบัติธรรม เท่านี้ท่านก็สามารถดำรงชีวิตให้สงบสุข พ้นจากเคราะห์ร้ายภัยพิบัติต่างๆ หรือจากหนักเป็นเบา และสุดท้ายยังสามารถหลุดพ้นกลับคืนสู่แดนนิพพานได้ ถ้ามิใช่ยุคสุดท้ายปลายกัป มีหรือเราท่านจะมีโอกาสดีเช่นนี้
นับตั้งแต่อดีต มีผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะร่ำรวยมหาศาล มีฐานะตำแหน่งใหญ่โตหรือมีชื่อเสียงก้องโลกสุดท้ายตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง ทำคุณประโยชน์ให้กับโลกนี้ก็ไม่มี เมื่อลงสู่นรกแล้วก็ยังต้องรับโทษกรรมอีกมากมาย มาบัดนี้ ได้ชื่อว่าเป็นยุคปรกโปรดครั้งยิ่งใหญ่ ผู้มีรากฐานบุญพอสมควร ก็สามารถรับธรรมะได้ รับธรรมะแล้วไม่ได้บำเพ็ญ อย่างน้อยก็ได้รับนิรโทษกรรม70 เปอร์เซ็น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยดูแลคุ้มครอง ชาติหน้ายังได้เกิดในยุคพระศรีอาริย์เพื่อบำเพ็ญต่อ และได้รับการย้ายชื่อจากนรกขึ้นสู่ด่านตรีเทพพิทักษ์มหาราชแต่ถ้าไม่ได้รับธรรมะตายแล้วต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไปในวัฎจักรของธรรมชาติ แต่ถ้ารับธรรมะแล้วมีจิตศรัทธา ตั้งใจบำเพ็ญก็สามารถบรรลุธรรมได้ในชาตินี้

No comments:

Post a Comment