Monday

ชูกำปั้น

สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งมี ศิษย์พี่กับศิษย์น้อง ศึกษาบำเพ็ญธรรมอยู่บนเขา
ศิษย์น้องมีตาข้างเดียว อีกข้างบอดสนิท

อยู่มาวันหนึ่งมีนักปราชญ์คนเก่งคนหนึ่งมาที่สำนักนี้เพื่อประลองวิชากับเจ้าสำนัก(ศิษย์พี่)
ระหว่างทางเจอกับศิษย์น้อง
นักปราชญ์ - ไม่พูดพร่ำทำเพลง อะไร ยกนิ้วชี้ชูขึ้น 1 นิ้วให้ศิษย์น้องเห็น
ศิษย์น้อง - เมื่อเห็นนักปราชญ์ยกนิ้วชูขึ้น 1 นิ้วแล้ว ศิษย์น้องจึงชูนิ้วขึ้น 2 นิ้ว
นักปราชญ์ - เมื่อเห็นดังนั้น จึงชูนิ้วขึ้น 3 นิ้ว
ศิษย์น้อง - เมื่อเห็นดังนั้น จึงกำมือแล้วชูขึ้น
นักปราชญ์ - เมื่อเห็นดังนั้น จึงพูดว่าสำนักนี้สุดยอด ล้ำเลิศ ไม่ขอท้าประลองแล้วขอยอมแพ้ รีบกลับออกจากสำนัก
ระหว่างทางเจอศิษย์พี่
ศิษย์พี่ถาม - ท่านเป็นใคร มาเพราะเหตุใด แล้วจะรีบกลับเพราะเหตุใด
นักปราชญ์ - เราเป็นนักปราชญ์ มาประลองวิชากับเจ้าสำนัก แต่ขนาดพบเพียงรองเจ้าสำนึก(ศิษย์น้อง) ก็ขอยอมแพ้แล้ว
 - เรายกนิ้วขึ้น 1 นิ้วหมายถึง พระพุทธ
 - ศิษย์น้อง ก็สุดยอดชูตอบกลับมา 2 นิ้ว หมายถึง มีพระพุทธ แล้วก็ต้องมีพระธรรม
 - เราจึงยก 3 นิ้ว หมายถึง พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
 - แต่ศิษย์น้องกำมือชูขึ้น หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ต้องรวมเป็นหนึ่ง
 - เราจึงขอยอมแพ้ลากลับไปก่อน ว่าแล้วนักปราชญ์ก็เดินทางกลับไป
ต่อมาศิษย์น้องวิ่งมาพบศิษย์พี่
ศิษย์พี่ถาม- เจ้าจะไปไหน
ศิษย์น้อง - ข้ามาคิดบัญชีนักปราญช์คนนั้น ที่มันดูถูกข้า
ศิษย์พี่ - เขาดูถูกเจ้ายังไง
ศิษย์น้อง - เขาชู 1 นิ้ว เยาะเย้อว่าข้ามีตาเดียว ข้าจึงชู 2 นิ้วตอบกลับไปว่าเมื่อก่อนข้าก็มีตา 2 ข้าง
                  เขาก็ยังเยาะเย้ยข้าอีกด้วยการชู 3 นิ้วว่า ตาของข้ากับตาของเขารวมกันได้ 3
                  ข้าโมโหมากจึงยกกำปั้นจะไปต่อยเขา แต่เขากลับวิ่งหนีไปเสียได้ เจ็บใจจริง ๆ
ศิษย์พี่ - โถ... มันช่างโง่กันทั้งสองคนนั่นแหละ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอะไร
    - จิตคนมักปรุงแต่งคิดไปเองฟุ้งซ่านเอง ถ้าไม่รู้จักควบคุมจิตก็จะเป็นโทษต่อตัวเองและผู้อื่น

No comments:

Post a Comment